การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา อ่านต่อได้ที่
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้
ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นายณัฐกานต์ เตชะวรรณโต
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2565
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย (2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาสังคมศึกษาระดับสูง ปานกลาง และต่ำ หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย และ (4) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา โดยการใช้สมองเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ปี 3/2 โรงเรียนเทศบาล 3 (วัดศาลาหัวยาง) เทศบาลนครสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครสงขลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 รวมนักเรียน ทั้งสิ้น 29 คน โดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย จำนวน 8 แผน 18 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษามีค่าความเชื่อมั่น .78 และ 3) แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์มีค่าความเชื่อมั่น .71 ใช้แบบแผนการทดลองแบบทดสอบก่อนและหลังแบบกลุ่มเดียว (One Group Pre-test Post-test) สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และ One - way MANOVA
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาหลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
2. นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย มีความคิดสร้างสรรค์หลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมวิชาสังคมศึกษาระดับสูง ปานกลาง และต่ำ หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทยแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญที่ระดับ .05
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียน พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาสังคมศึกษาโดยการใช้สมองเป็นฐานที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (x = 4.65, S.D. = 0.71)