เผยแพร่ผลงานวิชาการ
การวิจัยเรื่อง
รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน
เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1
Research on professional learning community development model by using joint lesson development to promote active learning management of teachers at Wat Ban Makluea School Nakhon Sawan Primary Educational Service Area Office 1
นายสรธัช วุทธพันธ์
Mr. Sorathat Wutthaphan
วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ
Academic status: Specialist Director of Wat Ban Makluea School
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องรูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียน ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ (1) วิเคราะห์องค์ประกอบ ชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวิชาชีพ ของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (2) ศึกษาแนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (3) สร้างและตรวจสอบรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (4) ทดลองใช้ รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 และ (5) ประเมินผลการใช้ รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. วิเคราะห์องค์ประกอบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า มีจำนวน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การติดตามผลการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ของผู้เรียน 2) การมีภาวะผู้นำและวัฒนธรรมการร่วมมือ 3) การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและการสนับสนุนทางโรงสร้าง 4) การร่วมมือรวมพลังสนับสนุนกันภายในองค์กร และ 5) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพ
2. ศึกษาแนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 สรุปผลการสัมภาษณ์ แนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า 1) การออกแบบการเรียนรู้ 2) การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง 3) การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และ 4) การวัดและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ
3. สร้างและตรวจสอบรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการของรูปแบบ 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบ 5) เนื้อหาของรูปแบบ และ 6) แนวทาง/เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ผลการตรวจสอบความเหมาะสม พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และผลการสร้างคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) บทนำ 2) คำชี้แจงหรือคำแนะนำในการใช้คู่มือ 3) เนื้อหาสาระ4) การวัดผลและประเมินผล 5) แหล่งอ้างอิง และ 6) วัตถุประสงค์ของคู่มือ ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
4.ทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า 4.1) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 4.2) ผลการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.3) ผลการใช้รูปแบบ พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และ 4.4) คุณภาพผู้เรียนของนักเรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ภาพรวม ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 77.09 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 75.82 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.27
5. ผลการประเมินรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
คำสำคัญ : ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ,การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน,การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู
รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ โดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน
เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1
Research on professional learning community development model by using joint lesson development to promote active learning management of teachers at Wat Ban Makluea School Nakhon Sawan Primary Educational Service Area Office 1
นายสรธัช วุทธพันธ์
Mr. Sorathat Wutthaphan
วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ
Academic status: Specialist Director of Wat Ban Makluea School
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องรูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียน ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ (1) วิเคราะห์องค์ประกอบ ชุมชนแห่ง การเรียนรู้ทางวิชาชีพ ของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (2) ศึกษาแนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู โรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (3) สร้างและตรวจสอบรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 (4) ทดลองใช้ รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 และ (5) ประเมินผลการใช้ รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. วิเคราะห์องค์ประกอบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า มีจำนวน 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) การติดตามผลการปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ของผู้เรียน 2) การมีภาวะผู้นำและวัฒนธรรมการร่วมมือ 3) การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและการสนับสนุนทางโรงสร้าง 4) การร่วมมือรวมพลังสนับสนุนกันภายในองค์กร และ 5) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพ
2. ศึกษาแนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 สรุปผลการสัมภาษณ์ แนวทางการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า 1) การออกแบบการเรียนรู้ 2) การจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง 3) การใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และ 4) การวัดและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ
3. สร้างและตรวจสอบรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 รูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการของรูปแบบ 4) การวัดและประเมินผลของรูปแบบ 5) เนื้อหาของรูปแบบ และ 6) แนวทาง/เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ผลการตรวจสอบความเหมาะสม พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และผลการสร้างคู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) บทนำ 2) คำชี้แจงหรือคำแนะนำในการใช้คู่มือ 3) เนื้อหาสาระ4) การวัดผลและประเมินผล 5) แหล่งอ้างอิง และ 6) วัตถุประสงค์ของคู่มือ ผลการตรวจสอบความเหมาะสมของคู่มือการใช้รูปแบบ พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
4.ทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า 4.1) ความสามารถในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 4.2) ผลการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันของครูโรงเรียนวัดบ้านมะเกลือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 4.3) ผลการใช้รูปแบบ พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และ 4.4) คุณภาพผู้เรียนของนักเรียน ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ภาพรวม ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 77.09 ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 75.82 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.27
5. ผลการประเมินรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ความพึงพอใจของครูที่มีต่อรูปแบบการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้การพัฒนาบทเรียนร่วมกันผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของครู สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ เขต 1 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
คำสำคัญ : ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ,การพัฒนาบทเรียนร่วมกัน,การจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู