รายงานการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง รายงานการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
เรื่อง ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน นางสาวมัสลิน เขียวลำยอง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนดงซ่อมพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1
การรายงานผลการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ- สืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อประเมินความ พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนดงซ่อมพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก มีค่าความยากง่าย รายข้อ (p) ตั้งแต่ .33 - .80 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) อยู่ระหว่าง .33 - .80 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rtt) เท่ากับ .090 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้าในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โดย ใช้รูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest only Design) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่า E1/E2 ค่าเฉลี่ย ( X-bar ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าที (t-test) ผลการรายงาน พบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น จำนวน 4 เล่ม ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ย ทั้งชุด เท่ากับ 82.09/81.08 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนด แสดงว่าชุดกิจกรรม การเรียนรู้ที่จัดทำขึ้นมีประสิทธิภาพเชื่อถือได้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่าง- มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่านักเรียนมีพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.23, S.D. = 0.63)
ชื่อเรื่อง รายงานการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
เรื่อง ดาราศาสตร์ และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้รายงาน นางสาวมัสลิน เขียวลำยอง ครู วิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนดงซ่อมพิทยาคม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1
การรายงานผลการสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ- สืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อประเมินความ พึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรม การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนดงซ่อมพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก มีค่าความยากง่าย รายข้อ (p) ตั้งแต่ .33 - .80 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) อยู่ระหว่าง .33 - .80 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (rtt) เท่ากับ .090 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้าในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โดย ใช้รูปแบบการทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดผลก่อนและหลังการทดลอง (One Group Pretest - Posttest only Design) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่า E1/E2 ค่าเฉลี่ย ( X-bar ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าที (t-test) ผลการรายงาน พบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น จำนวน 4 เล่ม ประสิทธิภาพโดยเฉลี่ย ทั้งชุด เท่ากับ 82.09/81.08 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่กำหนด แสดงว่าชุดกิจกรรม การเรียนรู้ที่จัดทำขึ้นมีประสิทธิภาพเชื่อถือได้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังการจัดกิจกรรม การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ สืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่าง- มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่านักเรียนมีพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง ดาราศาสตร์และอวกาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก (X-bar = 4.23, S.D. = 0.63)