เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ โดย นายจักรพรรณ นาโนน
ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์)
ผู้วิจัย จักรพรรณ นาโนน ตําแหน่งครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ
สถานศึกษา โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์)
ปีทวิจัย 2565
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ย เพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) มีวัตถุประสงค์ (1) การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
(2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างคะแนนการทดสอบหลังเรียน กับคะแนน การทดสอบก่อนเรียนของ
ผู้เรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องการสร้างเสียงประสานใน บทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) (3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานใน บทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) ตัวอย่าง ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียน ชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) สังกัดสํานัก
การศึกษา เทศบาลเมืองนครพนม จํานวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random sampling) โดยการจับฉลาก 1 ห้องเรียน จากนักเรียนทั้งหมด 2 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระ การเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) มีเนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นเนื้อหาเรื่องการสร้างเสียงประสานในบทเพลง โดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก
ซึ่งประกอบด้วย 3 ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อใช้ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง การสร้างเสียง ประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จํานวน 30 ข้อ ซึ่งผู้วิจัยได้สร้างขึ้น ตามแนวการสร้างและหาคุณภาพแบบอิงเกณฑ์ (3) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียง ประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จํานวน 9 แผน จํานวน 18 ชั่วโมง (4) แบบวัดความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จํานวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการ ทดสอบลําดับที่โดยเครื่องหมายของวิลค็อกซัน (Wilcoxon Signed Rank Test for Two Related Samples) ผลการวิจัย พบว่า
(1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.71/84.78
(2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานในบทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) สูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ .05
(3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างเสียงประสานใน บทเพลงโดยใช้ขลุ่ยเพียงออ ตามแนวทฤษฎีดนตรีตะวันตก กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ เพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนเทศบาล ๓ (พินิจพิทยานุสรณ์) โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด