LASTEST NEWS

07 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการสอบคัดเลือกฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 07 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการสอบคัดเลือกฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 05 พ.ค. 2567‘เพิ่มพูน’ ยันโรงเรียนห้ามกั๊กการออกใบเกรดหากเด็กค้างค่าเทอม 05 พ.ค. 2567ก.ค.ศ.เดินหน้ารื้อระบบ ศน.ใหม่ ยกเครื่อง ปรับบทบาทหน้าที่ เพิ่มคุณสมบัติ ดึงบุคลากรคุณภาพพัฒนาคุณภาพการศึกษา 04 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 04 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 04 พ.ค. 2567สพม.ชัยภูมิ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 4 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 3 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 5 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 2 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชลบุรี เขต 1 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 14 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567

งานวิจัยทางการศึกษา

usericon

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของ
ครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์)
ผู้วิจัย      นางจุไรรัตน์ จำนงค์
ปีที่ทำวิจัย     2565

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์ (ชุมคณานุสรณ์) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) โดยมีขั้นตอนการวิจัย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐานรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) โดยการสังเคราะห์เอกสารและการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) โดยยกร่างรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model แล้วจัดทำคู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model โดยผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 ท่าน และครูจำนวน 10 คน จากนั้นจึงปรับปรุงรูปแบบ BANPO Model เพื่อใช้ในการนิเทศภายในสถานศึกษาต่อไป ขั้นตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียน บ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) แหล่งข้อมูล ได้แก่ ครูผู้สอน โรงเรียนบ้านโพธิ์ (ชุมคณานุสรณ์) จำนวน 10 คน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 2 เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูมีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ แบบประเมินความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู ด้านการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู ทักษะที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู และด้านเจตคติที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู มีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วน ประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 4 การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์ (ชุมคณานุสรณ์) แหล่งข้อมูล ได้แก่ ครูผู้สอนจำนวน 10 คน โดยใช้แบบประเมินมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) พบว่า
รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) เป็นกระบวนการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของครูให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยมุ่งให้ความช่วยเหลือ แนะนำ ส่งเสริม ปรับปรุงการสอนของครูให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูเกิดจากกระบวนการปฏิบัติตามแนวทางของการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model โดยมีหลักการที่ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศร่วมปรึกษาหารือ วางแผนวิเคราะห์ สังเกตการสอน ลงมือปฏิบัติ และให้ข้อมูลย้อนกลับจนประสบผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งผู้นิเทศจะให้คำชี้แนะแก่ผู้รับการนิเทศเพื่อให้เกิดการพัฒนาได้ด้วยตนเอง และให้คำปรึกษา คำแนะนำแก่ผู้รับการนิเทศที่มีประสบการณ์น้อยหรือเริ่มทำงานให้ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูอย่างต่อเนื่อง
2. ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) พบว่า
2.1 ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) พบว่า รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model มี 5 ขั้น ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 เริ่มกำหนดเป้าหมาย (B : Begin Goal Searching) ขั้นที่ 2 จัดกิจกรรมร่วมประสบการณ์ (A: Activity share experience) ขั้นที่ 3 การจัดการดำเนินงานที่ดี (N : Nice operation management) ขั้นที่ 4 ฝึกฝนพัฒนาเพื่อเรียนรู้ (P : Practice develop to Learn) และขั้นที่ 5 สร้างโอกาสสู่ชุมชน (O : Opportunities for community)
2.2 ผลการประเมินความความเหมาะสมของรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษา BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมาก (x ̅ = 4.34, S.D.= 0.54) และเมื่อพิจารณา รายการประเมิน พบว่า รายการที่มีความเหมาะสมมากที่สุดจำนวน 10 รายการและรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การนำแนวคิดมาพัฒนารูปแบบมีความเหมาะสม (x ̅ = 4.77, S.D.= 0.45) ส่วนรายการอื่น ๆ มีความเหมาะสมในระดับมากจำนวนรายการ 12 รายการ
3. ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) พบว่า
    3.1 ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู พบว่า ก่อนอบรมมีค่าเฉลี่ย 7.50 หลังอบรมมีค่าเฉลี่ย 18.10 และทำการทดสอบโดยใช้ค่าสถิติทดสอบที (t-test dependent) พบว่า ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู หลังจากได้รับการส่งเสริมสมรรถนะสูงกว่าก่อนได้รับการส่งเสริมสมรรถนะอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3.2 ความสามารถเขียนแผนการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูอยู่ใน ระดับมาก (x ̅ = 4.45, S.D.= 0.72) และเมื่อพิจารณารายการประเมินด้านการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ พบว่า จุดประสงค์การเรียนรู้ถูกต้อง ชัดเจน สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.54, S.D.= 0.64) และด้านทักษะการจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครู พบว่า บรรยากาศในชั้นเรียนเน้นความร่วมมือ มีความเป็นกัลยณามิตรอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.65, S.D.= 0.53)
3.3 ครูผู้สอนมีเจตคติที่ดีต่อการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.60, S.D.= 0.89) และพบว่า ในประเด็นรายการ ข้อที่ 14 การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น ซึ่งมีค่าเฉลี่ยนมากที่สุด (x ̅ = 4.74, S.D.= 0.43)
4. ผลการประเมินความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPHO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์)
ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อมีต่อรูปแบบการนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model เพื่อส่งเเสริมสมรรถนะการใช้สื่อของครูโรงเรียนบ้านโพธิ์(ชุมคณานุสรณ์) ภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.59, S.D.= 0.61) และเมื่อพิจารณารายการประเมิน พบว่า รายการที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ได้แก่ การนิเทศภายในสถานศึกษาด้วย BANPO Model การช่วยให้ครูวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (x ̅ = 4.83, S.D.= 0.41) ส่วนรายการอื่น ๆ มีความพึงพอใจในระดับมากและมากที่สุด
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^