การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ด้วยการจัดการเรียนรู
บทคัดย่อ
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหา ซึ่งพื้นฐานจะต้องมีความรู้ความสนใจในขั้นตอนของกระบวนการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สามารถควบคุมและตรวจสอบการคิดและผลที่เกิดขึ้นจากการคิดของตนเองอย่างมีเป้าหมายและทิศทาง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาผลการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 เรื่อง เมทริกซ์ 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์ ของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 ก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) กับเกณฑ์ร้อยละ 60 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะในรูปแบบต่าง ๆ เรื่อง เมทริกซ์ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในเรื่อง เมทริกซ์ และแบบสอบถามความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S หรือ S.D.) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 เรื่อง เมทริกซ์ ดีขึ้น
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์ ของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 หลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) พบว่า หลังการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลการแสดงความคิดเห็นของนักเรียนของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) อยู่ในเกณฑ์ มาก
โดยสรุป การเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) ผู้เรียนมีทักษะในการแก้ปัญหา มีมนุษยสัมพันธ์ และการสื่อความหมาย จากการทำงาน อภิปราย ซักถาม ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยน และให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จัก และเข้าใจตนเองดีขึ้นในด้านของการทราบข้อดีและข้อบกพร่องของตนเองเพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาตนเอง
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหา ซึ่งพื้นฐานจะต้องมีความรู้ความสนใจในขั้นตอนของกระบวนการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาคณิตศาสตร์ สามารถควบคุมและตรวจสอบการคิดและผลที่เกิดขึ้นจากการคิดของตนเองอย่างมีเป้าหมายและทิศทาง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาผลการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 เรื่อง เมทริกซ์ 2. เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์ ของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 ก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) กับเกณฑ์ร้อยละ 60 3. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/1-4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย คือ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม จำนวน 39 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะในรูปแบบต่าง ๆ เรื่อง เมทริกซ์ และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในเรื่อง เมทริกซ์ และแบบสอบถามความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x ̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S หรือ S.D.) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการเรียนของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) นักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 เรื่อง เมทริกซ์ ดีขึ้น
2. ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เมทริกซ์ ของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 หลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) พบว่า หลังการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
3. ผลการแสดงความคิดเห็นของนักเรียนของนักเรียนกลุ่ม ชฟ.2/3-4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) อยู่ในเกณฑ์ มาก
โดยสรุป การเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบการสอนแนะให้รู้คิด ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) ผู้เรียนมีทักษะในการแก้ปัญหา มีมนุษยสัมพันธ์ และการสื่อความหมาย จากการทำงาน อภิปราย ซักถาม ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยน และให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้รู้จัก และเข้าใจตนเองดีขึ้นในด้านของการทราบข้อดีและข้อบกพร่องของตนเองเพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาตนเอง