รายงานการพัฒนาหนังสือประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอ
การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาหนังสือประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือประกอบการเรียน 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิภาพของหนังสือประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหนังสือประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนชุมชนหนองแสงโนนสว่าง อำเภอหนองพอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 17 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้คือ แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ จำนวน 12 แผน หนังสือประกอบการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จำนวน 8 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสือประกอบการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.93/ 88.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/ 80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานเกษตร) ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ มีคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เมื่อใช้หนังสือประกอบการเรียนทั้ง 8 เล่ม
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8298 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ร้อยละ 82.98
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) โดยใช้หนังสือประกอบการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุปการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น และเกิดความพึงพอใจในการเรียนรู้
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสือประกอบการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.93/ 88.63 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/ 80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานเกษตร) ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการ มีคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เมื่อใช้หนังสือประกอบการเรียนทั้ง 8 เล่ม
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.8298 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ร้อยละ 82.98
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียน ชุดการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานเกษตร) โดยใช้หนังสือประกอบการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุปการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หนังสือประกอบการเรียน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น และเกิดความพึงพอใจในการเรียนรู้