รายงานผลการพัฒนาและการใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาต
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและพัฒนาการใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความ พึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธัญบุรี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ที่กำลังศึกษารายวิชา ว30221 เคมี 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนห้อง 1 ห้อง มีจำนวน 41 คน ด้วยวิธีสุมอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลากนักเรียนทั้งหมด 5 ห้องเรียนเลือกมาเพียง 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม 2) คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม รวม 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสร้างจากแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 ข้อ ค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.24 – 0.79 และค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.21 – 0.83 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าร้อยละ (Percentage) และ t-test Dependent มีนัยสำคัญที่ระดับ .05
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 83.38 / 81.77 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2 เปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยของผู้เรียนทั้งหมดจากการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 8 เล่ม คะแนนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
3 ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 0.7444 นั่นหมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น 0.7444 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.44
4. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับ มาก ("X" ̅= 4.48 , S.D. = 0.47)
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและพัฒนาการใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 4) ศึกษาความ พึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนธัญบุรี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ที่กำลังศึกษารายวิชา ว30221 เคมี 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนห้อง 1 ห้อง มีจำนวน 41 คน ด้วยวิธีสุมอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับฉลากนักเรียนทั้งหมด 5 ห้องเรียนเลือกมาเพียง 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม 2) คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม รวม 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสร้างจากแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 ข้อ ค่าความยากง่าย (p) อยู่ระหว่าง 0.24 – 0.79 และค่าอำนาจจำแนก (r) อยู่ระหว่าง 0.21 – 0.83 และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .93 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ค่าร้อยละ (Percentage) และ t-test Dependent มีนัยสำคัญที่ระดับ .05
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 83.38 / 81.77 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2 เปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยของผู้เรียนทั้งหมดจากการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 8 เล่ม คะแนนจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
3 ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 0.7444 นั่นหมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มสูงขึ้น 0.7444 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.44
4. ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะเคมี เรื่อง อะตอมและตารางธาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับ มาก ("X" ̅= 4.48 , S.D. = 0.47)