LASTEST NEWS

19 ก.ย. 2567สพฐ. แจงศิลปหัตถกรรมนักเรียน แยกการแข่งวิชาการ ลดภาระครู-นักเรียน ไม่ซ้ำซ้อน . 18 ก.ย. 2567ศธ.ย้ำ 20 ก.ย.นี้รู้ผลสอบ "ครูเบญ" ชี้อย่าตัดสินคนแค่เพราะนามสกุลดัง 18 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 18 ก.ย. 2567โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย​ รับสมัครครูช่วยสอน 6 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 25 กันยายน 2567 18 ก.ย. 2567โรงเรียนซำสูงพิทยาคม รับสมัครครูช่วยสอน 5 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 26 กันยายน 2567 17 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 16 ก.ย. 2567มาแล้ว!! ด่วนที่สุด! การจัดการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 72 ปีการศึกษา 2567 ให้ดำเนินการแข่งขันโดยสิ้นสุดที่ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 16 ก.ย. 2567สพฐ. เร่งสอบข้อเท็จจริง ครูสาวสอบได้ที่ 1 ชื่อหาย ย้ำต้องโปร่งใส ตรงไปตรงมา 16 ก.ย. 2567ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู! ‘ครูเบญ’ บุกศธ.ทวงความเป็นธรรมสอบครูได้ที่ 1 ชื่อล่องหน 15 ก.ย. 2567กรมท่าอากาศยาน เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 24 อัตรา วุฒิปวส./ป.ตรี/ป.ตรีทุกสาขา สมัครตั้งแต่บัดนี้ - 3 ตุลาคม 2567

รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวน

usericon

ชื่อเรื่อง     รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบ
            จำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือ
            เทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย     นริศรา ทองมาก
ตำแหน่ง     ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านยางบ่อภิรมย์ อำเภอชุมพลบุรี
    จังหวัดสุรินทร์
ปีการศึกษา     2560

บทคัดย่อ
    การวิจัยครั้งนี้ เป็นการรายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 ด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียน เรื่องการบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวนนักเรียน 24 คน โดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง(Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ประกอบด้วย ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 ชุด ระดับคะแนนเฉลี่ยการประเมินของชุดฝึกทักษะ ทั้ง 9 ชุด เท่ากับ 4.87 แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การคูณ โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวม 18 ชั่วโมง ระดับคะแนนเฉลี่ยการประเมินของแผนการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 9 แผน เท่ากับ 4.85 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ 0.45 - 0.81 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.20 – 0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบตามวิธี Wilcoxon Signed Rank test

    ผลการวิจัยพบว่า
    1.     ประสิทธิภาพของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ ( E1/E2 ) เท่ากับ 88.29/91.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งได้คือ 75/75    
    2.     นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
    3.    ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.8790 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนเพิ่มขึ้น 0.8790 หรือคิดเป็นร้อยละ 87.90
    4.    นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวกและการลบจำนวนที่มีผลลัพธ์และตัวตั้งไม่เกิน 20 โดยใช้วิธีการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิคแบบกลุ่มช่วยรายบุคคล(TAI) กับเมื่อหลังเรียนระยะเวลาผ่านไป 14 วันไม่แตกต่างกัน แสดงว่าชุดฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นทำให้นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^