LASTEST NEWS

20 ก.ย. 2567“สพฐ. เผยกรณีครูสาวได้ที่ 1 ชื่อหาย เตรียมดึงตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพิ่มความเชื่อมั่น-โปร่งใสทุกกระบวนการ” 20 ก.ย. 2567เปิดผลสอบ "ครูเบญ" กรณี ชื่อหาย จากอันดับที่ 1 เผย ไม่ผ่านจริง คะแนน ทั้งภาค ก และภาค ข ไม่ถึง 60% ตามที่ระเบียบกำหนด 20 ก.ย. 2567ด่วน! สพฐ.เลื่อนแถลงผลสรุปสอบข้อเท็จจริง ปมดราม่า "ครูเบญ" ได้ที่ 1 ชื่อกลับล่องหน 19 ก.ย. 2567“อรรถพล” ชงทบทวนร่างพ.ร.บ.การศึกษาชาติฯให้รมว.ศธ.พิจารณา 19 ก.ย. 2567วิทยาลัยเทคโนโลยีพัฒนบัณฑิตบริหารธุรกิจโพนสวรรค์ รับสมัครครู 6 อัตรา เงินเดือน 15,000 ไม่ต้องมีวุฒิครู รับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 19 ก.ย. 2567ผลสอบชัดแล้ว! 10 โมงพรุ่งนี้แถลงสรุป ดราม่า ‘ครูเบญ’ สอบได้อันดับ 1 แต่ชื่อล่องหน 19 ก.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 ก.ย. 2567สพฐ. แจง !!! หลังถูกโซเชียลวิจารณ์การจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน 19 ก.ย. 2567สพฐ. แจงศิลปหัตถกรรมนักเรียน แยกการแข่งวิชาการ ลดภาระครู-นักเรียน ไม่ซ้ำซ้อน . 18 ก.ย. 2567ศธ.ย้ำ 20 ก.ย.นี้รู้ผลสอบ "ครูเบญ" ชี้อย่าตัดสินคนแค่เพราะนามสกุลดัง

เผยแพร่งานวิจัย ปรับปรุง

usericon

เผยแพร่งานวิจัย ปรับปรุง
ชื่อเรื่อง         การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่าน                จากสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3โรงเรียนเทศบาล 3 (วิมุกตายนวิทยา)
ผู้ศึกษา         นางอมรรัตน์ ศรีจันทร์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
    โรงเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 (วิมุกตายนวิทยา) อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
ปีการศึกษา 2556
บทคัดย่อ
การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3โรงเรียนเทศบาล๓ (วิมุกตายนวิทยา)ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อสร้างแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน75/75 และ2) เพื่อพัฒนาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3/1โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา) เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 26 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ การอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์ จำนวน 6 เรื่อง เวลา 18 ชั่วโมง และ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ การทดสอบสมมติฐานt-test(Dependent Sample)
ผลการศึกษา พบว่า
1.แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจากสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.61/79.10ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75
2. ผลการพัฒนาด้านทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ร้อยละ 48.73 และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
23 เม.ย. 2557 เวลา 00:03 น. 0 965
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^