LASTEST NEWS

11 ก.พ. 2568สพฐ.หนุนก.ค.ศ.ทำระบบย้ายครูTRS ประหยัดงบกว่า 30 ล้าน 11 ก.พ. 2568ปรับเงินเดือนข้าราชการ 2568 ดูฐานเงินเดือนใหม่ได้ที่นี่ 11 ก.พ. 2568สพฐ. เดินหน้าหลักสูตรใหม่! เริ่มใช้หลักสูตรปฐมวัย-ประถมต้น 2568 นำร่องโรงเรียนสมัครใจ 16 พ.ค. 68 นี้ 10 ก.พ. 2568ด่วนที่สุด! กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ สำรวจกลุ่มวิชา / สาขาวิชาเอก เปิดสอบครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2568 10 ก.พ. 2568“ธนุ” เผย เตรียมเสนอครม.อนุมัติงบเฉพาะขั้นพื้นฐาน แก้ปัญหารร.เล็กภายในก.พ.นี้ 10 ก.พ. 2568เปิดแนวทางใหม่! หลักเกณฑ์ย้ายพนักงานราชการทั่วไป ที่ต้องรู้ !!! 10 ก.พ. 2568ข่าวดี! ก.พ. ออกแนวทางใหม่ ให้พนักงานราชการประเภททั่วไปย้ายได้แล้ว เช็กแนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์การย้ายได้ที่นี่ 09 ก.พ. 2568ลูกจ้าง ท้องถิ่น เฮ!! อนุโครงสร้าง ก.ท.เตรียมพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ การคัดเลือกพนักงานจ้าง เป็นข้าราชการในอปท. เป็นกรณีพิเศษโดย ไม่ต้องสอบแข่งขัน 08 ก.พ. 2568สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 11 ตำแหน่ง 145 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่บัดนี้ - 28 กุมภาพันธ์ 2568 08 ก.พ. 2568กรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดรับสมัครพนักงานราชการ ตำแหน่งนักวิชาการสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 10 - 17 กุมภาพันธ์ 2568

เตรียมตัวสอบครู ตอนที่1: วิธีการอ่านหนังสืออย่างไรให้จำได้เร็ว

  • 20 มิ.ย. 2556 เวลา 20:49 น.
  • 248,143
เตรียมตัวสอบครู ตอนที่1: วิธีการอ่านหนังสืออย่างไรให้จำได้เร็ว

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เทคนิคการเตรียมตัวสอบครูผู้ช่วย
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์สอบครูดอทคอม

ตอนที่1: วิธีการอ่านหนังสืออย่างไรให้จำได้เร็ว

มีเอกสารหรือหนังสือสำหรับใช้เตรียมสอบที่มีคุณภาพและจำนวนมาก จะไม่ก่อประโยชน์อะไรในการสอบเลยหากไม่อ่านหนังสือนั้น ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้มีความรู้ ความเข้าใจ คือ การอ่าน การเขียน การฟังการพูดหรือการฝึกทำ เพราะคนเราจะจำหรือเข้าใจในเนื้อหาต้องใช้เรียนรู้หลายๆ วิธี เทคนิคการอ่านหนังสือมีดังนี้
 
         1) ศึกษาหลักสูตรการสอบแข่งขันฯ ให้เข้าใจและจัดหมวดหมู่ของเนื้อหา หนังสือ และวิธีการศึกษา
         2) ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ควรศึกษาโดยวิธีฝึกทำข้อสอบ ดูเฉลยและทำความเข้าใจ เรื่องไหนที่ยากควรทำจุดสังเกตไว้ในหนังสือหรือบันทึกสรุปวิธีการหรือหลักการหาคำตอบไว้ในสมุดบันทึกใช้ทบทวนในคราวต่อไป
         3) วิชาการศึกษา ควรศึกษาเป็นเรื่องๆ ตามกรอบหลักสูตรสอบฯโดยใช้หนังสือหรือเอกสารหลายๆเล่มประกอบกัน(ไม่ควรอ่านหนังสือที่ละเล่มแต่ควรอ่านที่ละเรื่อง) ทำจุดสังเกต (เน้นความสำคัญ)ไว้ในหนังสือหรือสรุปเนื้อหาไว้ในสมุดบันทึก ใช้ทบทวนในคราวต่อไป
         4) วิชากฎหมายการศึกษา ควรศึกษาเฉพาะกฎหมายที่ระบุในหลักสูตรฯ ในประเด็นสำคัญและเรื่องที่ใช้ในการปฏิบัติงาน บันทึกเรื่องหรือประเด็นสำคัญเอาไว้ทบทวนในคราวต่อไป ควรฝึกทำข้อสอบจะทำให้จดจำได้ (แต่อย่าท่องข้อสอบ)
         5) วิชาเอกหรือวิชาเฉพาะวุฒิ ควรศึกษาในสองลักษณะ คือ ลักษณะการจัดการเรียนการสอนวิชานั้นและเนื้อหาสาระของวิชานั้นๆ ในประเด็นสำคัญ สรุปและบันทึกสาระสำคัญเอาไว้ ฝึกทำข้อสอบวิชานั้นๆ
         6) ควรวางแผนในการศึกษาหรืออ่านหนังสือทั้งในเรื่องสถานที่ เวลา เนื้อหาวิชาตามความถนัดและความสะดวกของตนเอง เช่น สถานที่เหมาะหากเป็นเวลากลางวัน ควรเป็นที่ห้องสมุดสถาบันการศึกษา เพราะเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน ไม่ทำให้เสียสมาธิ มีหนังสือให้ค้นคว้า มีบริการอินเตอร์เน็ตหรือสื่ออย่างอื่น เวลาที่เหมาะสำหรับอ่านหนังสือที่บ้านควรจะเป็นตอนเช้าประมาณ 04.00 -06.00นาฬิกา เพราะเป็นเวลาที่สงบเงียบ สมองได้พักผ่อนมาแล้ว ความจดจำและความเข้าใจจะมีสูงการแบ่งเนื้อหาในการศึกษาก็เป็นเรื่องที่สำคัญและคนส่วนมากมักละเลยและให้ความสำคัญเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกินไป จนพบปัญหาว่าดูหนังสือไม่ทัน ไม่ครอบคลุมหลักสูตรฯ
         7) นอกจากการศึกษาเอกสารแล้วสื่อเอกสารอย่างอื่นก็เป็นสิ่งจำเป็น เช่น การพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน การสอบถามหรือปรึกษากับครู อาจารย์ หรือผู้รู้ฯ การเข้ารับการอบรมสัมมนา(ติวสอบฯ) เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการสอบเพราะจะได้รู้ความเคลื่อนไหวเทคนิควิธีการต่างๆ หรือการศึกษาโดยสื่อวีดีทัศน์ เทปคำบรรยาย เป็นต้น
         8) การติดตามความเคลื่อนไหวทางการศึกษา สังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากเพราะเนื้อหาเหล่านี้จะกำหนดในหลักสูตรสอบฯ และออกข้อสอบทุกครั้ง เรื่องเหล่านี้จะไม่มีในหนังสือแน่นอนเพราะเป็นเรื่องใหม่ เหตุการณ์ปัจจุบัน วิธีการศึกษาที่ดีที่สุด คือ ติดตามข่าวสารทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วิทยุหรือตามอินเตอร์เน็ต
 
  • 20 มิ.ย. 2556 เวลา 20:49 น.
  • 248,143

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^