LASTEST NEWS

16 พ.ค. 2567เสมา 1 มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย รวมพลัง ศธ. จับมือเดินหน้าผลักดัน “ธนาคารหน่วยกิต เพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับทุกคน” 16 พ.ค. 2567“สิริพงศ์” แจงวิชาลูกเสือมีความทันสมัย แต่ขาดการสร้างความรับรู้ 15 พ.ค. 2567ท้องถิ่น เตรียมจัดสอบ 92 ตำแหน่ง รวม 6,262 อัตรา - ครูผู้ช่วย 29 วิชาเอก 1,157 อัตรา 15 พ.ค. 2567อาชีวะเตรียมรับพนักงานราชการเพิ่มกว่า 1,100 อัตรา  15 พ.ค. 2567สพฐ.เล็งยุบเลิก รร.ขนาดเล็กที่ไม่มีเด็กเรียน  15 พ.ค. 2567สอบครูผู้ช่วย ทั่วไป สพฐ.ปี 67 สมัครสอบทั้งสิ้น 154,187 คน ตำแหน่งว่างบรรจุครั้งแรก 4,399 อัตรา 15 พ.ค. 2567สพฐ. ปักหมุด1,808 จุด ทำ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ 15 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย ภาค ก และ ภาค ข รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 15 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย ภาค ก และ ภาค ข รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 14 พ.ค. 2567โรงเรียนมัธยมตากสินระยอง รับสมัครครูอัตราจ้าง 10 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท สมัครออนไลน์ ตั้งแต่บัดนี้-23 พฤษภาคม 2567

ค้าน "คลัง" ยกงบ7หมื่นล.ให้ประกันดูแลสวัสดิการขรก.

  • 08 ธ.ค. 2559 เวลา 22:33 น.
  • 7,569
ค้าน "คลัง" ยกงบ7หมื่นล.ให้ประกันดูแลสวัสดิการขรก.

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ค้าน "คลัง" ยกงบ7หมื่นล.ให้ประกันดูแลสวัสดิการขรก.​

คสร.ค้านคลังเตรียมยกงบ 7 หมื่นล้านให้ธุรกิจประกันภัยดูแลสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เชื่อกระทบระบบ รพ.รัฐ เสนอให้ราชการบริหารเอง ไม่ใช่เอื้อประโยชน์เอกชน กรมบัญชีกลางต้องปรับปรุงระบบสิทธิประโยชน์ ใช้ยาสมเหตุสมผล


วันที่ 7 ธ.ค. ที่ห้องประชุมศศนิเวศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายปฏิรูประบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (คสร.) จัดแถลงข่าว "คัดค้านกระทรวงการคลังเตรียมยกงบประมาณ 7 หมื่นล้านบาทให้ธุรกิจประกันภัยดูแลสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ" โดยมีอดีตผู้บริหารภาครัฐ เป็นข้าราชการบำนาญเข้าร่วมแถลงครั้งนี้ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และตัวแทน คสร. กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังยอมรับว่าได้เตรียมการในการนำเรื่องการโอนเงิน 7 หมื่นกว่าล้านไปให้ธุรกิจประกันภัยบริหารจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและครอบครัว โดยย้ำว่าจะไม่มีการลดสิทธิใดๆ และไม่เพิ่มงบประมาณของประเทศ สิ่งที่เราไม่สามารถรับได้เนื่องจากมีประสบการณ์เรื่องการบริหาร พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถยนต์ พ.ศ.2535 โดยบริษัทเอกชนนอกจากมีค่าบริหารจัดการแล้ว ยังต้องการกำไรอีก อีกทั้งผู้ประสบภัยจากรถพบปัญหามากมายในการเบิกเงินจนต้องเบิกจากสิทธิอื่นๆ ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิข้าราชการ และสิทธิประกันสังคม จาก พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถ ทางบริษัทเอกชนรับไปกว่าร้อยละ 40

"หากยังให้บริษัทเอกชนมาบริหารงบประมาณการรักษาพยาบาลของข้าราชการอีก การเบิกจ่ายคงมีปัญหาเช่นเดียวกัน งบประมาณกองทุนสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการประมาณ 7 หมื่นกว่าล้านบาท หากคิดค่าบริหารจัดการให้ธุรกิจประกันภัย คิดขั้นต่ำร้อยละ 10 หรือประมาณ 7,200 ล้านบาท งบส่วนนี้แทนที่จะถูกส่งไป รพ.รัฐ ซึ่งเป็นงบหมุนเวียนกันอยู่กลับต้องไปที่เอกชน หากถูกคิดค่าบริหารจัดการถึงร้อยละ 40 เงินจะหายจากระบบเท่าไร แน่นอนว่า รพ.รัฐต้องประสบปัญหาแน่ๆ ยิ่ง รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องอยู่แล้ว ดังนั้น เราต้องช่วยกันปิดกั้น อย่าสิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น การบอกว่าผ่านการประชุมแล้ว พร้อมเสนอ ครม. ไม่ถูกต้อง ที่ผมกลัวคือ กลัวจะใช้มาตรา 44 ออกกฎหมาย หวังว่าจะไม่เกิดขึ้น" นพ.มงคลกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทำหนังสือทักท้วงหรือไม่ นพ.มงคลกล่าวว่า ทางที่ดีที่สุด ข้าราชการที่มีสิทธิ รวมทั้ง รพ. โดยเฉพาะ รพ.สธ. รวมทั้งระบบสุขภาพอื่นๆ ต้องลุกมาต่อต้าน หากยอม เกิดปัญหาแน่ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกิดจากความบกพร่องของการบริหารจัดการของกรมบัญชีกลางที่ไม่มีระบบตรวจสอบการให้สิทธิและการบริการสิทธิประโยชน์เลย เมื่อเกิดปัญหา มีค่าบริหารจัดการ กลับแก้ไขโดยการโยนให้เอกชนทำ

นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ปัญหามาจากงบประมาณพุ่งสูง ทำให้ต้องโยนให้ธุรกิจประกันภัยไปดำเนินการ ต้องถามว่าเกาถูกที่คันแล้วหรือไม่ สิ่งสำคัญของปัญหาสิทธิรักษาพยาบาลข้าราชการต้องไปดูต้นเหตุว่ามาจากอะไร ยกตัวอย่าง กรมบัญชีกลางเคยเรียกเงินคืนจาก รพ.แห่งหนึ่ง เพราะพบว่าสั่งจ่ายยาให้คนไข้มากเกินความจำเป็น เป็นยานอกบัญชียาหลัก ราคาแพง กรมบัญชีกลางสามารถตรวจสอบบัญชีการใช้ยาต่างๆ ให้เหมาะสมได้ ทางออกคือ วิเคราะห์ปัญหา และให้ข้าราชการ สถาบันวิชาการ รวมทั้งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) มาร่วมกันศึกษาว่าจะหาทางออกกันอย่างไร

ผศ.ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอเรื่องดังกล่าวโดยไม่สอบถามความคิดเห็นจากข้าราชการผู้มีสิทธิ ซึ่งปัญหาการใช้จ่ายยาไม่สมเหตุสมผลของสิทธิข้าราชการนั้น จะพบปัญหาที่ผู้ป่วยนอก เพราะผู้ป่วยในจะมีการควบคุมการใช้จ่ายยาตามกลุ่มโรค หรือดีอาร์จี ทั้งนี้ เคยมีข้อเสนอบันได 8 ขั้นแก้ปัญหา อาทิ กรมบัญชีกลางประกาศใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล โดยกำหนดให้มีการส่งเหตุผลการใช้ยาเยอะใน รพ.ที่ใช้ยาเกินกำหนด การกำหนดให้ทุก รพ.ใช้ยาชื่อสามัญแทนยาต้นแบบ เป็นต้น ดังนั้น กรมบัญชีกลางต้องปรับปรุงระบบสิทธิประโยชน์ให้สมเหตุสมผล และควรแยกหน่วยงานอิสระในการติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ หากไม่สามารถทำได้ก็อาจให้ สปสช. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) หรือให้หน่วยอิสระกลางแห่งใดมาทำก็ได้ ทั้งนี้ ค่าบริหารจัดการ หากเป็นภาครัฐ อย่าง สปสช. คิดค่าบริหารจัดการเพียงประมาณ 1% แต่เอกชนน่าจะเกิน 25%

นางรัศมี วิศทเวทย์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ตนเคยทำงานที่ สคบ. พบการร้องเรียนมากมาย ทั้งเรื่องการประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งนี้ ข้าราชการไทยส่วนมากไม่ได้มีฐานะร่ำรวย และปัจจุบันสิทธิข้าราชการลดน้อยลง ไม่สามารถเบิกยาบางตัวได้ หากให้ธุรกิจเอกชนบริหารจะกระทบต่อผู้มีสิทธิในการเบิกจ่าย ควรให้ข้าราชการบริหารระบบ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์แก่เอกชน อย่างไรก็ตาม หากมอบให้ สปสช.เป็นผู้บริหารมีข้อได้เปรียบ เพราะบุคลากรมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการระบบ.

ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 เวลา 00:00  น.
  • 08 ธ.ค. 2559 เวลา 22:33 น.
  • 7,569

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^