การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนคณิตศาสตร์ที่เน้นกระบวนการเรียน
คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณ และเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์
เรวดี มูสิกะอุปถัมภ์1
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่คณิตศาสตร์ ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน เพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดคำนวณและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ ในการศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development : R&D) ทำการศึกษากับนักเรียนที่กำลังเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 34 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบวัดทักษะการคิดคำนวณ แบบวัดเจตคติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการทดสอบ ค่าที การหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ตามขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัย (Research : R1) ขั้นตอนนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน (Analysis : A) คือการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนา (Development : D1) เป็นการออกแบบและพัฒนา (Design and Development : D&D) คือการพัฒนาและหาคุณภาพประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอน ขั้นตอนที่ 3 การวิจัย (Research : R2) เป็นการทดลองใช้ (Implementation : I) รูปแบบการเรียนการสอนมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอน ในขั้นนี้ผู้วิจัยนำรูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง และขั้นตอนที่ 4 การพัฒนา (Development : D2) เป็นการประเมินผล (Evaluation : E) การประเมินและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบการเรียนการสอน ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนได้แก่ การสอน (Teach) การทำกิจกรรมกลุ่ม (Team) การฝึกฝน (Train) การแข่งขัน (Tournament) การทดสอบ (Test) และการสร้างความมั่นใจ (Trust) เรียกว่า 6T Model ที่พัฒนาขึ้นมานี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.78/80.83 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 หลังการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบการสอนคณิตศาสตร์ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้คู่ความเพลิน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05 และมีเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ในระดับมาก ( = 4.44 , S.D. = 0.31) จากการศึกษาครั้งนี้พบว่า รูปแบบการสอน 6T Model ช่วยลดความแตกต่างเรื่องเพศและระดับความสามารถของผู้เรียน การปรับปรุงรูปแบบการสอน ในขั้นการแข่งขันอาจต้องใช้ให้เวลาเขียนตอบแล้วแสดงคำตอบพร้อมกันและขั้นที่ 6 การสร้างความมั่นใจ ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาเพิ่มขึ้น เพราะทุกคนได้มีโอกาสทบทวนซ้ำ
คำสำคัญ : โมเดล 6T การเรียนรู้คู่ความเพลิน เจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ ทักษะการคิดคำนวณ
ครูชำการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล ๒ (บ้านบาเละฮิเล) ตำบลบางนาค อำภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส