รายงานการพัฒนาชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์ฯ
ชื่อหัวข้อการศึกษา รายงานการพัฒนาชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้ศึกษา นายพิเชษฐ์ โพนสิม
_______________________________________________________________________________
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้อง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 48 คน ซึ่งได้จากการเลือก แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะเวลาในการทดลอง การทดลองครั้งนี้กระทำในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลองทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วยชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าความตรงตามเนื้อหา การหาค่าความยากง่าย และค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และค่าสถิติ t–test แบบ dependent
ผลการศึกษา 1) ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากผลการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนกับแบบทดสอบหลังเรียน พบว่าชุดการเรียนมีค่าประสิทธิผลเท่ากับ 82.63/87.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียน พบว่ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการเรียนด้วยชุดการเรียนทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 มีระดับความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้ศึกษา นายพิเชษฐ์ โพนสิม
_______________________________________________________________________________
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพของชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน โดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ โรงเรียนเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1 ห้อง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 48 คน ซึ่งได้จากการเลือก แบบเจาะจง (Purposive Sampling) ระยะเวลาในการทดลอง การทดลองครั้งนี้กระทำในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลองทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วยชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 เล่ม แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การหาค่าความตรงตามเนื้อหา การหาค่าความยากง่าย และค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ การหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และค่าสถิติ t–test แบบ dependent
ผลการศึกษา 1) ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากผลการเรียนของนักเรียนระหว่างเรียนกับแบบทดสอบหลังเรียน พบว่าชุดการเรียนมีค่าประสิทธิผลเท่ากับ 82.63/87.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 2) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการเรียน พบว่ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการเรียนด้วยชุดการเรียนทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน เรื่อง ความน่าจะเป็น วิชาคณิตศาสตร์เพิ่มเติม 4 มีระดับความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด