LASTEST NEWS

04 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 04 พ.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ ครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 04 พ.ค. 2567สพม.ชัยภูมิ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 4 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 3 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 5 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชัยภูมิ เขต 2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 2 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 04 พ.ค. 2567สพป.ชลบุรี เขต 1 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 14 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 03 พ.ค. 2567โรงเรียนหนองไผ่ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกคอมพิวเตอร์ เงินเดือน 10,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 10 พฤษภาคม พ.ศ.2567 03 พ.ค. 2567โรงเรียนอนุบาลสกลนคร รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกคณิตศาสตร์ เงินเดือน 9,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 8 พฤษภาคม พ.ศ.2567 03 พ.ค. 2567สพป.ชัยนาท ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 4 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567 03 พ.ค. 2567สพม.ชลบุรี ระยอง ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 จำนวน 15 อัตรา ตั้งแต่ 8-14 พ.ค.2567

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง อสมการ ของนักเรียนชั้นม.3

usericon

ชื่อผลงาน
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อสมการ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

ผู้ศึกษา
นายร่อเก็ม ทวีโสะ ครูชำนาญการโรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ปีที่ทำการศึกษา
ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

    การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อสมการ ก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ประชากร ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา จำนวน 3 ห้องเรียน รวม 78 คน กลุ่มตัวอย่าง ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนหาดใหญ่- เจริญราษฎร์พิทยา จำนวน 28 คน ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและ หลังเรียน แบบฝึกทักษะคณิตสาสตร์ และแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบกลุ่มสัมพันธ์กัน(t-test dependent sample)
    ผลการศึกษาพบว่า 1) แบบฝึกทักษะคณิตสาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.61/76.79 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
รายวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ 3)ความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.62
บทที่ 1
บทนำ

ความสำคัญและความเป็นมา    
คณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกๆด้านและทุกๆวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนของแต่ละวัน มนุษย์ทุกคนล้วนต้องอาศัยคณิตศาสตร์ในการดำเนินชีวิตทุกๆวัน เพียงแต่มนุษย์โดยส่วนใหญ่มองว่าคณิตศาสตร์ไม่ได้มีความสำคัญ ความจำเป็นอะไรในการดำเนินชีวิต ใช้เฉพาะรายรับและรายจ่ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นมุมมองที่ไม่ถูกต้อง
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่น ๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 56) และคณิตศาสตร์ยังช่วยพัฒนาให้แต่ละบุคคลเป็นคนที่สมบูรณ์ เป็นพลเมืองที่ดี เพราะคณิตศาสตร์ช่วยเสริมสร้างความมีเหตุผล ความเป็นคนช่างคิด ช่างริเริ่มสร้างสรรค์ มีระบบระเบียบในการคิด มีการวางแผน ในการทำงาน มีความสามารถในการตัดสินใจ มีความรับผิดชอบต่อกิจกรรมที่ได้รับมอบหมายตลอดจนมีลักษณะของความเป็นผู้นำในสังคม (สิริพร ทิพย์คง. 2545 : 1)
    หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 (กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 25) ได้กล่าวถึง หลักการจัดการเรียนรู้ไว้ว่า การจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถ ตามมาตรฐาน
การเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยยึดหลักว่า ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยึดประโยชน์ที่เกิดกับผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรม
    คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดมนุษย์ ทำให้มนุษย์มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ช่วยในการคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา และนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้คณิตศาสตร์ยังเป็นเครื่องมือในการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่นๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการเนินชีวิต
ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข(กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 56)
ถึงแม้ว่าคณิตศาสตร์จะมีบทบาท มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตมากเพียงใดก็ตาม แต่การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร จะเห็นได้จากรายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งปรากฏผลดังนี้
ตาราง 1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 กับปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ระดับ    ค่าเฉลี่ยร้อยละ
    ปีการศึกษา 2557    ปีการศึกษา 2558
ระดับประเทศ    29.65    32.40
ระดับเขตพื้นที่การศึกษา    31.05    34.28
ระดับโรงเรียน    25.94    29.13

    จากตารางพบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 กับปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนหาดใหญ่- เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละต่ำกว่าระดับประเทศ และเมื่อผู้ศึกษาวิเคราะห์ตามโครงสร้างมาตรฐานและสาระการเรียนรู้ ผลปรากฏว่า มาตรฐานและสาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนควรเร่งพัฒนาเนื่องจากคะแนนเฉลี่ยของโรงเรียนต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ ได้แก่ มาตรฐานการเรียนรู้ ค.4.2 ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ กราฟและตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์(mathematical mode) อื่นๆ แทนสถานการณ์ต่างๆ ตลอดจนแปลความหมายและนำไปใช้แก้ปัญหา และเมื่อวิเคราะห์ไปยังข้อสอบรายข้อของมาตรฐาน ค. 4.2 ผลปรากฏ ว่าเรื่องที่นักเรียนทำคะแนนได้ไม่ดี คือ เรื่อง อสมการ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

จากสภาพปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นทำให้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยาดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนมาโดยตลอด โดยได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านคณิตศาสตร์ ได้แก่ กิจกรรมติวเตอร์ จากครูและบุคลากรในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และวิทยากรภายนอกจากสำนักติวเตอร์(หาดใหญ่ติวเตอร์) กิจกรรมค่ายคณิตศาสตร์ เป็นต้น โดยเฉพาะในสาระและมาตรฐานที่มีปัญหา ผู้ศึกษาในฐานะครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์
จึงสนใจที่จะเลือกใช้สื่อเพื่อการเรียนรู้ โดยได้จัดทำแบบฝึกทักษะ เรื่อง อสมการ เพื่อใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อสมการ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่มีปัญหาของนักเรียน และนอกจากนี้
ผู้ศึกษาเล็งเห็นแล้วว่าแบบฝึกทักษะเป็นนวัตกรรมที่มีคุณค่าช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และรับความรู้
ในเชิงเนื้อหา และกระบวนการ พร้อมทั้งช่วยส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิด ซึ่งสอดคล้องกับการแก้ปัญหาการเรียนการสอน มาสโลว์ (ทิศนา แขมมณี. 2550 : 69 ; อ้างอิงมาจาก Maslow. 1962) กล่าวว่า การเข้าใจถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ สามารถช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของบุคคลได้ เนื่องจากพฤติกรรมเป็นการแสดงออกของความต้องการของบุคคล การที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิด การเรียนรู้ได้ดี จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานที่เขาต้องการเสียก่อน ในกระบวนการเรียนการสอน หากครูสามารถหาได้ว่าผู้เรียนแต่ละคนมีความต้องการอยู่ในระดับใดขั้นใด ครูสามารถใช้ความต้องการพื้นฐานของผู้เรียนนั้นเป็นแรงจูงใจ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ การช่วยให้ผู้เรียนได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตนอย่างพอเพียง การให้อิสรภาพและเสรีภาพแก่ผู้เรียนในการเรียนรู้ การจัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้จะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ในการรู้จักตนเองตรงตามสภาพความเป็นจริง
    สื่อมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสื่อจะทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้
ความเข้าใจ ความรู้สึกและเพิ่มพูนทักษะ ประสบการณ์ให้ผู้เรียน ปัจจุบันสื่อการเรียนรู้มีอิทธิพลสูงต่อการกระตุ้นให้ผู้เรียนกลายเป็นผู้แสวงหาความรู้ด้วยตนเองจนเกิดการพัฒนาด้านต่าง ๆ (กระทรวงศึกษาธิการ. 2553 : 38) แบบฝึกทักษะเป็นสื่อประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาการเรียนรู้ จากการปฏิบัติด้วยตนเอง ได้ฝึกทักษะเพิ่มเติมและทบทวนเนื้อหาหลังจากที่ได้เรียนบทเรียน (เกศินี มีคุณ. 2547 : 27) นอกจากนั้นการให้ผู้เรียนได้ทำแบบฝึก-ทักษะมาก ๆ จะช่วยให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางการเรียนรู้ในเนื้อหาได้ดีขึ้น เพราะนักเรียน มีโอกาสนำความรู้ที่เรียนมาแล้วมาฝึกให้เกิดความเข้าใจกว้างขวางยิ่งขึ้น (วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. 2549 : 113)
    จากที่กล่าวมาข้างต้น ผู้ศึกษาได้สร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้ เนื่องจากแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เป็นสื่อที่สามารถใช้กับวิชาคณิตศาสตร์แล้วทำให้นักเรียนสามารถพัฒนาความรู้ ความเข้าได้ดี และสามารถใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ ให้บรรลุวัตถุประสงค์และ มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น และเป็นแนวทางให้ครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ได้พัฒนาการจัดการเรียนรู้ของตนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์ของการศึกษา
1. เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75
    2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อสมการ ก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
    3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้
โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ

สมมติฐานของการศึกษา
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75
    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อสมการ โดยใช้แบบฝึก-ทักษะคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
    3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด

    
ขอบเขตของการศึกษา
    การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาดำเนินการตามลำดับขั้นตอนดังนี้
    1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
     1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 จำนวน 3 ห้องเรียน
จำนวนนักเรียน 78 คน โดยนักเรียนทั้ง 3 ห้อง มีความสามารถใกล้เคียงกัน
1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มัธยมศึกษา เขต 16 จำนวน 1 ห้องเรียน
จำนวนนักเรียน 28 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม (Simple Random Sampling)

    2. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
        2.1 ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
        2.2 ตัวแปรตาม ได้แก่
         2.2.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ         
2.2.2 ความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ

    3. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา
    ผู้ศึกษาได้พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ตามเนื้อหาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน่วยที่ 1 เรื่อง อสมการ จำนวน 16 แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 3 ชุด ได้แก่


    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 1 อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 2 การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

    4. ระยะเวลาในการศึกษา
    ใช้เวลาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึงวันที่
2 ธันวาคม 2559 ทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน ด้วยแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ ใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที จากนั้นจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ซึ่งมีทั้งหมด 16 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รวมทั้งหมด 18 ชั่วโมง และแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 3 ชุด เมื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์แต่ละชุดเสร็จแล้ว ให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยรวม 3 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 จำนวน 15 ข้อ ชุดที่ 2 จำนวน 15 ข้อ และชุดที่ 3 จำนวน 10 ข้อ ทำแบบสอบถาม ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ด้วยแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนฉบับเดียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนใช้เวลาในการทดสอบ 50 นาที

นิยามศัพท์เฉพาะ
    1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ หมายถึง สื่อการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาได้สร้างขึ้น และใช้ในการฝึกปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างทักษะกระบวนทางคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียน หลังจากเรียนจบเนื้อหานั้น ๆ ทำให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจรวดเร็ว ชัดเจน แม่นยำ และนำไปใช้ได้ เป็นผลให้การจัดการเรียนการสอนของครูและการเรียนของนักเรียนประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 3 ชุด ดังนี้
    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 1 อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 2 การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ชุดที่ 3 โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    2. แผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีการจัดการเรียนการสอน โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค23102
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 16 แผนการเรียนรู้ รวมจำนวน 18 ชั่วโมง ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
    3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ผลการวัดความสามารถทางด้านการเรียนของนักเรียน เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากคะแนนสอบที่ได้จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
    4. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง เครื่องมือสำหรับช่วยให้ครูผู้สอนสามารถตัดสินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นแบบทดสอบที่ใช้วัดความรู้ ทักษะกระบวนการ และความสามารถทางวิชาการที่ผู้เรียนได้เรียนรู้มาแล้ว แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้ศึกษาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ในหน่วยการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
    5. ความพึงพอใจ หมายถึง ระดับความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนการสอน
ในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน การปฏิบัติของครูผู้สอน และสภาพบรรยากาศโดยทั่วไปของการเรียนการสอน ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียน การจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้จากคะแนนแบบสอบถาม วัดความพึงพอใจของนักเรียน แบบมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
    6. แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ หมายถึง แบบสอบถามที่วัดความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่าชนิด 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น
    7. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ หมายถึง คุณภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น โดยหาประสิทธิภาพของกระบวนการและประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ตามเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 ซึ่งมีความหมาย ดังนี้
     75 ตัวแรก หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ ได้จากร้อยละเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนทั้งหมดจากการทำกิจกรรมและแบบทดสอบระหว่างเรียนหลังใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ทั้ง 3 ชุด คิดเป็นร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม
     75 ตัวหลัง หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ได้จากร้อยละเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนทั้งหมดจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 75 ของคะแนนเต็ม



ประโยชน์ของการศึกษา
    1. ได้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อสมการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนคณิตศาสตร์ให้สูงขึ้น
    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน เรื่อง อสมการ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์มีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น
    3. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ใช้เป็นแนวทางสำหรับการพัฒนา
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ในเนื้อหาและระดับชั้นอื่นๆ ต่อไป

hunnad462110 28 มิ.ย. 2561 เวลา 09:23 น. 0 572
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^