การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระกา
ผู้ศึกษา นางปาริชาติ จันทะรัง
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา เป็นวิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นักเรียนทุกคนได้คิดได้ปฏิบัติด้วยตนเองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน และครูอย่างเต็มที่ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนน้ำพอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 จำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 13 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (p) 0.47–0.76 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23–0.58 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เศษส่วน จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) 0.41–0.67 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test Dependent Samples
ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.03/81.01
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.6928 แสดงว่ามีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 69.28
3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก
โดยสรุป การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา เป็นวิธีสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นักเรียนทุกคนได้คิดได้ปฏิบัติด้วยตนเองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน และครูอย่างเต็มที่ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนน้ำพอง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 4 จำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 13 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (p) 0.47–0.76 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23–0.58 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เศษส่วน จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) 0.41–0.67 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.82 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test Dependent Samples
ผลการศึกษาพบว่า
1. แผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 81.03/81.01
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.6928 แสดงว่ามีความก้าวหน้าในการเรียนคิดเป็นร้อยละ 69.28
3. นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมาก
โดยสรุป การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบซิปปา เรื่องเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน