LASTEST NEWS

18 พ.ค. 2567สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รับสมัครพนักงานราชการ 12 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป 17 พ.ค. 2567เปิดเทอมใหม่ “ครู-นร.” เฮ! สพฐ.กำชับทุกโรงเรียน “ลดการบ้าน” 17 พ.ค. 2567เปิดเทอมใหม่ สพฐ.กำชับโรงเรียน “ลดการบ้าน-ลดประเมิน” สร้างความสุขนักเรียน-ครู 17 พ.ค. 2567ด่วนที่สุด !! รมว.ศธ. แจ้งหัวหน้าส่วนราชการ ผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบนักเรียน 16 พ.ค. 2567กรมราชทัณฑ์ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 102 อัตรา สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 - 18 มิถุนายน 2567 16 พ.ค. 2567โรงเรียนวัดสํานักบก รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาภาษาอังกฤษ เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 22 พฤษภาคม 2567 16 พ.ค. 2567“บิ๊กอุ้ม” จี้อ.ก.ค.ศเขตพื้นที่ ทำงานโปร่งใส ไร้ทุจริต ยึดประโยชน์ราชการ 16 พ.ค. 2567เสมา 1 มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย รวมพลัง ศธ. จับมือเดินหน้าผลักดัน “ธนาคารหน่วยกิต เพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับทุกคน” 16 พ.ค. 2567“สิริพงศ์” แจงวิชาลูกเสือมีความทันสมัย แต่ขาดการสร้างความรับรู้ 15 พ.ค. 2567ท้องถิ่น เตรียมจัดสอบ 92 ตำแหน่ง รวม 6,262 อัตรา - ครูผู้ช่วย 29 วิชาเอก 1,157 อัตรา

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ สาระเศรษฐศาสตร์

usericon

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย : นุชรี เนียมรัตน์
ปีที่วิจัย : ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563

บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการในการพัฒนา การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยศาสตร์พระราชา 2) เพื่อร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินผล และปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 44 คน โรงเรียนเทศบาล ๑ (เอ็งเสียงสามัคคี) ซึ่งได้จากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลแบบสอบถามความเหมาะสมขององค์ประกอบของรูปแบบ แบบทดสอบ ประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน การสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) เพื่อสอบถามความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่า t-test การวิเคราะห์เนื้อหา และการถอดบทเรียน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการในการพัฒนาการจัดการ สรุปว่า การจัดการเรียน ควรเร่งพัฒนาความรู้นักเรียนในสาระที่ 3 เศรษฐศาสตร์ โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน มุ่งความพอประมาณกับศักยภาพ ของนักเรียน พอประมาณกับภูมิสังคมของโรงเรียน และชุมชนที่ตั้ง ฝึกให้นักเรียนคิดเป็นทำเป็นอย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันในด้านต่างๆ โดยการดำเนินกิจการต้องนำไปสู่ความยั่งยืนของผล โดยที่นักเรียนมีความรู้ และเข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชาน้อมนำสู่วิถีชีวิต และเผยแพร่สู่ครอบครัว ชุมชน
2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้รูปแบบ “AGKC Model” ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้ การทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge : A) ขั้นกิจกรรมกลุ่ม (Group Process : G) การแสวงหาความรู้ใหม่ (Knowledge Acquisition : K) สรุป และขยายผล (Conclusion and extend results : C) การประเมินความเหมาะสมของการกำหนดองค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ส่วนการทดลองใช้ในการทดลองภาคสนามพบว่า มีประสิทธิภาพ 80.75/81.33
3. การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 การทดสอบหาค่าประสิทธิภาพ ขั้นทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง พบว่า มีประสิทธิภาพ 82.96/83.93
4. การประเมินผล และถอดบทเรียน การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 10.44 และหลังเรียนเท่ากับ 25.18 และเมื่อนำเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่าคะแนนก่อนเรียน และหลังเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 การประเมินพฤติกรรมนักเรียนที่แสดงออกตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และศาสตร์พระราชา อยู่ในระดับมาก การประเมินความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก
การถอดบทเรียน รูปแบบการจัดการเรียนรู้สาระ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้การถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เศรษฐศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้แบบการถอดบทเรียนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการกับศาสตร์พระราชา ที่เน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริงอย่างเป็นระบบขั้นตอน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พบเจอปัญหา และคิดค้นวิธีการต่างๆ เพื่อแสวงหาคำตอบด้วยตัวเองนักเรียนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น อภิปรายปัญหา และหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาร่วมกัน
nattaya1 10 ธ.ค. 2564 เวลา 20:14 น. 0 384
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^