รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่
รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย กชภชมษ์ บุญนาค
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ การวิจัยครั้งนี้ ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกึ่งทดลอง โดยใช้กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนซับนกแก้ววิทยา อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว จำนวน 29 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้สำหรับทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.28/83.97 ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.53 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.56
รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย กชภชมษ์ บุญนาค
ปีที่วิจัย 2561
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ การวิจัยครั้งนี้ ใช้แบบแผนการวิจัยแบบกึ่งทดลอง โดยใช้กลุ่มทดลองกลุ่มเดียว กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนซับนกแก้ววิทยา อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว จำนวน 29 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E 2) คู่มือการใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้สำหรับทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์โดยการคำนวณหาประสิทธิภาพ (E1/E2) ค่าร้อยละ (P) ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบความแตกต่างของคะแนนโดยใช้ค่าที (t - test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.28/83.97 ซึ่งถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะหาความรู้ 5E เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ รายวิชาฟิสิกส์เพิ่มเติม 1 (ว31201) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.53 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.56