การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป
ผู้ศึกษา นายณัฐกรณ์ ไกรศรี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) กองการศึกษา เทศบาลเมืองบัวใหญ่
อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ผู้วิจัยได้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2)
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) และ
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 22 คน ด้วยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ และ สถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมุติฐาน คือ การทดสอบวิลค๊อกซัน (Wilcoxon Signed Rank test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) เท่ากับ 87.06/84.55 ซึ่งเป็นไปตาม เกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
ผู้ศึกษา นายณัฐกรณ์ ไกรศรี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) กองการศึกษา เทศบาลเมืองบัวใหญ่
อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ผู้วิจัยได้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย คือ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ให้เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 2)
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) และ
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 22 คน ด้วยวิธีสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจ จำนวน 20 ข้อ และ สถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบสมมุติฐาน คือ การทดสอบวิลค๊อกซัน (Wilcoxon Signed Rank test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) เท่ากับ 87.06/84.55 ซึ่งเป็นไปตาม เกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 2 (สหกรณ์สมทบ) ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น (5Es) ประกอบบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง มหัศจรรย์แห่งน้ำและอากาศ ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด