การใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
ผู้รายงาน นายสมใจ โพธิ์ศรี
โรงเรียน โรงเรียนศรีสงครามวิทยา อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19
ปีที่พิมพ์ พ.ศ. 2556
บทคัดย่อ
รายงานการใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัด การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียน ในการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะ
หาความรู้ (5E) และ (3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 44 คน ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนศรีสงครามวิทยา อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 ได้มาจากการสุ่มกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม (Sampling Unit) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้
มีเครื่องมือ 4 ชนิด ดังนี้ (1) ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 4 ชุด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนการสอนแบบสืบเสาะ หาความรู้ (5E) จำนวน 13 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่ามี 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต( ) ค่าส่วนเบี่ยงมาตรฐาน (S.D.) และ ทดสอบค่าที (t – test for Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีประสิทธิภาพ
สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75 / 75
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้ชุดการเรียน หน่วยการเรียนรู้ เสียง รายวิชาฟิสิกส์ ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกับการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) อยู่ในระดับมากที่สุด และสอดคล้องกัน