รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอล
ชื่อผลงาน รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอล
สู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
ชื่อผู้รายงาน นายสิริชัย มะเวชะ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม มีวัตถุประสงค์เพื่อตัดสินคุณค่าของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยใช้รูปแบบการประเมินเชิงระบบ CIPP-Model และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
ประชากรเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา คือ ครูผู้สอนและครูผู้ดำเนินโครงการ จำนวน 35 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 100 คน นักเรียนหรือนักกีฬาฟุตซอลที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 คน รวมจำนวน 180 คน ระยะเวลาในการศึกษา ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ 1) แบบสอบถามผลการประเมินด้านบริบทของโครงการ 2) แบบสอบถามผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ 3) แบบสอบถามผล การประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินงานโครงการ 4) แบบสอบถามผลการประเมินด้านผลผลิตในการดำเนินงานโครงการ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริม และพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ ชนูปถัมภ์) สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
1. ด้านบริบทของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.11, = 0.74)
2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.03, = 0.72)
3. ด้านการดำเนินงานของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22, = 0.80)
4. ด้านผลผลิตของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.21, = 0.76)
ความพึงพอใจของบุคลากรเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
1. ความพึงพอใจของครูผู้สอนและครูผู้รับผิดชอบโครงการในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.28, = 0.81)
2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (= 4.31, = 0.83)
3. ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับการพัฒนาอยู่ในระดับมาก ( = 4.16, = 0.86)
สรุปได้ว่า ทั้งบุคลากรครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศคล้ายคลึงกันทุกประเด็น โดยเฉพาะ 1) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนมีพัฒนาการทางด้านร่างกายดีขึ้นนักเรียนมีความสนใจที่จะใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาซ้อมกีฬา จึงทำให้ร่างกายมีพัฒนาการดีขึ้นและมีความแข็งแรง 2) กีฬาฟุตซอลทำให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี รู้จักหน้าที่ของตนเอง รับผิดชอบ ยอมรับความผิดพลาดแล้วหาแนวทางแก้ไข 3) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน นักเรียนที่เป็นนักกีฬาส่วนใหญ่จะมีความผูกพันกับชุมชน ชอบช่วยเหลืองานในชุมชนทุกประเภท รวมทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยราชการอื่น ๆ
4) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนเป็นผู้มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักคำว่าให้อภัย แสดงน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทีมที่ทำคะแนนได้หรือทำผิดพลาด และ 5) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนมีความรัก ความภาคภูมิใจในโรงเรียนของตนเอง นักกีฬาสามารถนำชัยชนะมาสู่โรงเรียนและการแข่งขันเชื่อมความสามัคคีกับโรงเรียน อื่น ๆ ทำให้นักเรียนมีความรู้สึกที่ดีต่อโรงเรียน มีกลุ่มเพื่อนที่เล่นฟุตซอลต่างโรงเรียน
สู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
ชื่อผู้รายงาน นายสิริชัย มะเวชะ
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
รายงานผลการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม มีวัตถุประสงค์เพื่อตัดสินคุณค่าของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยใช้รูปแบบการประเมินเชิงระบบ CIPP-Model และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ โรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
ประชากรเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา คือ ครูผู้สอนและครูผู้ดำเนินโครงการ จำนวน 35 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 15 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 100 คน นักเรียนหรือนักกีฬาฟุตซอลที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 30 คน รวมจำนวน 180 คน ระยะเวลาในการศึกษา ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ 1) แบบสอบถามผลการประเมินด้านบริบทของโครงการ 2) แบบสอบถามผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการ 3) แบบสอบถามผล การประเมินด้านกระบวนการในการดำเนินงานโครงการ 4) แบบสอบถามผลการประเมินด้านผลผลิตในการดำเนินงานโครงการ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการส่งเสริม และพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ ชนูปถัมภ์) สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการประเมิน พบว่า
1. ด้านบริบทของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.11, = 0.74)
2. ด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.03, = 0.72)
3. ด้านการดำเนินงานของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่าโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.22, = 0.80)
4. ด้านผลผลิตของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศ ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.21, = 0.76)
ความพึงพอใจของบุคลากรเกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียน โรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์)
1. ความพึงพอใจของครูผู้สอนและครูผู้รับผิดชอบโครงการในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( = 4.28, = 0.81)
2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (= 4.31, = 0.83)
3. ความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน ในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดป้อมแก้ว (อัครพงศ์ชนูปถัมภ์) โดยรวมระดับการพัฒนาอยู่ในระดับมาก ( = 4.16, = 0.86)
สรุปได้ว่า ทั้งบุคลากรครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตซอลสู่ความเป็นเลิศคล้ายคลึงกันทุกประเด็น โดยเฉพาะ 1) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนมีพัฒนาการทางด้านร่างกายดีขึ้นนักเรียนมีความสนใจที่จะใช้เวลาหลังเลิกเรียนมาซ้อมกีฬา จึงทำให้ร่างกายมีพัฒนาการดีขึ้นและมีความแข็งแรง 2) กีฬาฟุตซอลทำให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี รู้จักหน้าที่ของตนเอง รับผิดชอบ ยอมรับความผิดพลาดแล้วหาแนวทางแก้ไข 3) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน นักเรียนที่เป็นนักกีฬาส่วนใหญ่จะมีความผูกพันกับชุมชน ชอบช่วยเหลืองานในชุมชนทุกประเภท รวมทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยราชการอื่น ๆ
4) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนเป็นผู้มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักคำว่าให้อภัย แสดงน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทีมที่ทำคะแนนได้หรือทำผิดพลาด และ 5) กีฬาฟุตซอล ทำให้นักเรียนมีความรัก ความภาคภูมิใจในโรงเรียนของตนเอง นักกีฬาสามารถนำชัยชนะมาสู่โรงเรียนและการแข่งขันเชื่อมความสามัคคีกับโรงเรียน อื่น ๆ ทำให้นักเรียนมีความรู้สึกที่ดีต่อโรงเรียน มีกลุ่มเพื่อนที่เล่นฟุตซอลต่างโรงเรียน