การพัฒนารูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัด
ผู้วิจัย ศรีพันธุ์ ยานุทัย
ปีการศึกษา 2562
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของ การวิจัย 1) เพื่อศึกษาปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ โดย 3.1) หาดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ 3.2) เปรียบเทียบความสามารถด้านการเขียนสื่อความเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ 3.3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ และ 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ กลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) ปีการศึกษา 2561 จำนวน ...คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยการจับสลากรายชื่อห้องเรียน 2) ครู โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) ปีการศึกษา 2561 จำนวน.....คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) ผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) ปีการศึกษา 2561 จำนวน ...คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ผู้ปกครองนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ รูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถทางการเขียนสื่อความเชิงสร้างสรรค์ แบบประเมินทักษะการเขียนสื่อความเชิงสร้างสรรค์ ประเภทรูบริคสกอร์ (Rubric Score) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) และสถิติค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t – test Dependent) ผลการวิจัยพบว่า
1. ปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (ธนวิถี) พบว่า นักเรียนมีทักษะด้านการเขียนต่ำกว่าด้านอื่นๆ
2. รูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ มีประสิทธิภาพ 86.41/85.88
3. ดัชนีประสิทธิผลของกระบวนการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ มีค่าเท่ากับ 0.8321 หมายความว่า การจัดการเรียนด้วยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ ทำให้นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 83.21
4. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ มีความสามารถด้านการเขียนสื่อความเชิงสร้างสรรค์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
5. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ โดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด
6. ความพึงพอใจของครูและผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยรูปแบบการสอนสร้างสรรค์งานเขียนบทเรียนท้องถิ่น 3 จังหวัดชายแดนใต้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และสถานการณ์จริงเป็นสื่อ อยู่ระดับมากที่สุด