LASTEST NEWS

26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพป.แพร่ เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพป.แพร่ เขต 1 26 เม.ย. 2567ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ  26 เม.ย. 2567สพป.ชัยนาท ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ชัยนาท 26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพม.นครศรีธรรมราช ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครศรีธรรมราช 26 เม.ย. 2567สพม.ลพบุรี ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.ลพบุรี 26 เม.ย. 2567สพม.สุรินทร์ ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพม.สุรินทร์ 26 เม.ย. 2567สพป.ตาก เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ตาก เขต 1 26 เม.ย. 2567สพป.ลำพูน เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ลำพูน เขต 2

เผยแพร่ผลงานวิชาการ

usericon

    ชื่อเรื่อง                    รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่าน
                            และการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว
                            อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    ผู้ประเมิน          นายบุญมา กงพลี
         ผู้อำนวยการโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว
    ระยะเวลาดำเนินการ      ปีการศึกษา 2560 - 2561

บทคัดย่อ

    รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ในครั้งนี้ มุ่งประเมินโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย โดยใช้หลักการประเมินแบบซิปป์โมเดล ( CIPP Model ) ประกอบด้วย ประเมินด้านสภาพแวดล้อม ประเมินด้านความพร้อมของปัจจัยเบื้องต้น ประเมินด้านกระบวนการ และประเมินด้านผลผลิต กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 3 คน นักเรียน 30 คน และผู้ปกครองนักเรียน 30 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 7 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 1 ฉบับ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้ออยู่ระหว่าง 0.36 - 0.88 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าอำนาจจำแนก และค่าความเชื่อมั่น ผู้ประเมินสามารถสรุปผลการประเมินโครงการได้ดังนี้
    1. ความเหมาะสมด้านสภาพแวดล้อมของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามความเห็นของ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมพบว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับ มากที่สุด โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.52 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.29
2. ความเหมาะสมด้านความพร้อมของปัจจัยเบื้องต้นของ โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามความเห็นของ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมพบว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับ มาก โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.47
        3. ความเหมาะสมด้านกระบวนการของโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามความเห็นของ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมพบว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับ มากที่สุด โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.59 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.36
        4. ผลผลิตตามวัตถุประสงค์ของโครงการด้านผลผลิตของ โครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียนพัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตามความเห็นของ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมพบว่ามีความเหมาะสม อยู่ในระดับ มาก โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.40
        โดยสรุปโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนของนักเรียนโรงเรียน พัฒนาคำแก้ว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะการอ่านและการเขียนเป็นสำคัญ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการต่อยอดการพัฒนาความรู้และทักษะในด้านอื่น ๆ ตามมา มีประโยชน์ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการศึกษาในทุกภาคส่วน ในอันที่จะนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของหน่วยงานการศึกษา ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกมิติ และจะเป็นการส่งผลต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ ในวงวิชาชีพทางการศึกษา เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศชาติสืบไป



kp1boonma 19 พ.ค. 2562 เวลา 14:16 น. 0 452
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^