เอกสารประกอบการเรียนการใช้สื่อมัลติมีเดียเพื่อพัฒนาการสอนวิชาวิท
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว กับเกณฑ์ร้อยละ 80 4) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดียเรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวก่อนเรียนกับหลังเรียนและ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว กลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 13 คน คัดเลือกโดยใช้วิธีสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สื่อมัลติมีเดียเรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t – test
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีประสิทธิภาพ 82.17/82.82 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งเกณฑ์ไว้ 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีค่าเท่ากับ 0.7325 หรือ คิดเป็นร้อยละ 73.25 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยกิจกรรมการเรียนการสอนตามประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวอยู่ในระดับมาก ( = 4.30, S.D. = 0.45)
ผลการวิจัยพบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้ตามประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีประสิทธิภาพ 82.17/82.82 ตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งเกณฑ์ไว้ 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนจากการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีค่าเท่ากับ 0.7325 หรือ คิดเป็นร้อยละ 73.25 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยกิจกรรมการเรียนการสอนตามประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ประกอบสื่อมัลติมีเดีย เรื่อง การสกัดน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวอยู่ในระดับมาก ( = 4.30, S.D. = 0.45)