LASTEST NEWS

18 พ.ค. 2567‘สิริพงศ์’ แจงชัดประกาศยกเว้น/ผ่อนผันแต่งเครื่องแบบนักเรียน เพื่อลดความเดือดร้อนผู้ปกครอง ไม่ได้สั่งยกเลิกชุดนักเรียน 18 พ.ค. 2567สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รับสมัครพนักงานราชการ 12 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป 17 พ.ค. 2567เปิดเทอมใหม่ “ครู-นร.” เฮ! สพฐ.กำชับทุกโรงเรียน “ลดการบ้าน” 17 พ.ค. 2567เปิดเทอมใหม่ สพฐ.กำชับโรงเรียน “ลดการบ้าน-ลดประเมิน” สร้างความสุขนักเรียน-ครู 17 พ.ค. 2567ด่วนที่สุด !! รมว.ศธ. แจ้งหัวหน้าส่วนราชการ ผ่อนผันการแต่งเครื่องแบบนักเรียน 16 พ.ค. 2567กรมราชทัณฑ์ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 102 อัตรา สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 - 18 มิถุนายน 2567 16 พ.ค. 2567โรงเรียนวัดสํานักบก รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาภาษาอังกฤษ เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 22 พฤษภาคม 2567 16 พ.ค. 2567“บิ๊กอุ้ม” จี้อ.ก.ค.ศเขตพื้นที่ ทำงานโปร่งใส ไร้ทุจริต ยึดประโยชน์ราชการ 16 พ.ค. 2567เสมา 1 มุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย รวมพลัง ศธ. จับมือเดินหน้าผลักดัน “ธนาคารหน่วยกิต เพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับทุกคน” 16 พ.ค. 2567“สิริพงศ์” แจงวิชาลูกเสือมีความทันสมัย แต่ขาดการสร้างความรับรู้

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

usericon

ชื่อเรื่อง     การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย     นางวัลยา ดาษนิกร โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ปีที่ศึกษา    2560

บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี รายวิชาเพิ่มเติม หน้าที่พลเมือง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบ และ (4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา โดยเริ่มจากขั้นตอนที่ 1 วิจัย (Research : R1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือการประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ผลการวิจัย การวิเคราะห์เอกสารต่าง ๆ แล้วนำผลที่ได้จากการวิเคราะห์มาสังเคราะห์ไปสู่ขั้นตอนที่ 2 พัฒนา (Develop : D1) คือ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา โดยนำผลจากขั้นตอนที่ 1 (Research : R1) มาพัฒนานวัตกรรม ทำให้นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มตัวอย่าง และในขั้นพัฒนา (Develop : D1) นี้ต้องพัฒนานวัตกรรมให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพก่อน แล้วจึงไปขั้นที่ 3 วิจัย (Research : R2) โดยนำนวัตกรรมไปใช้จริงกับกลุ่มตัวอย่าง ในขั้นตอนนี้มีการประเมินระหว่างใช้และเมื่อใช้แล้วดำเนินการในขั้นตอนที่ 4 พัฒนา (Develop : D2) โดยประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 50 ข้อ 3) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 4) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” 5) แบบประเมินพฤติกรรมของนักเรียนด้านค่านิยมความเป็นพลเมืองดี และ 6) แบบประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t - test

ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนการสอน พบว่า 1) ครูสอนแบบบรรยายไม่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ 2) นักเรียนขาดทักษะความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ทำให้มีผลสัมฤทธิ์ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 3) สื่อ/แหล่งเรียนรู้นำมาใช้น้อยมากและไม่ตรงกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น 4) นักเรียนไม่สนใจเรียน 5) นโยบายของเทศบาลและโรงเรียนที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ 6) การพัฒนาทักษะกระบวนการกลุ่มมีน้อยมาก 7) การพัฒนานักเรียนด้านคุณลักษณะหรือค่านิยมที่ดีขาดความจริงจัง และผลการศึกษาความต้องการในการพัฒนารูปแบบโดยครูและผู้เชี่ยวชาญ พบว่า 1) ต้องการให้ครูผู้สอนได้พัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ให้มีความรู้คู่คุณธรรม 2) ครูควรใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการคิดให้มากหรือสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง 3) ใช้สื่อและการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย และ 4) ให้เน้นกระบวนการกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาระดับชาติอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยสำคัญหนึ่งคือวิธีการสอนหรือวิธีการจัดการเรียนรู้ สอนให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ ไม่ใช่สอนให้ผู้เรียนท่องและจำแต่เพียงเนื้อหา ให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์และประเมิน สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์อื่น ๆ ได้ และจากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการสอนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมอย่างไม่เป็นทางการ เกี่ยวกับปัญหาที่พบในการเรียนการสอน คือความพร้อมของผู้เรียน อันเกิดจากการสอนของครูที่เป็นเพียงการบอกให้จดจำและเลียนแบบเท่านั้น ทำให้นักเรียนไม่มีโอกาสฝึกใช้ความสามารถในการเรียนรู้ ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้อย่างต่อเนื่องเชื่อมโยงกันได้ ควรมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความเข้าใจสนุกกับการเรียน ตามแนวคิดการจัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญหรือแนวคิดตามสภาพจริง เพราะเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยการให้ผู้เรียนเข้าไปเผชิญปัญหาในสภาพจริงหรือสถานการณ์จำลอง เช่น บทบาทสมมติ แล้วร่วมกันศึกษาเรียนรู้แก้ไขปัญหานั้น ในการพัฒนารูปแบบการสอนจึงต้องกำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน และนำสื่อมาใช้ในลักษณะของสื่อประสม เพื่อให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ ดังนั้นในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” โดยใช้กระบวนการวิจัยแบบผสมผสานวิธีทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นมีวินัยร่วมเรียนรู้ 3) ขั้นนำเสนอคู่บทบาทสมมติ 4) ขั้นสรุปข้อคิดอภิปรายผล และ 5) ขั้นชื่นชมนำไปใช้
3. ผลการศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังใช้รูปแบบ มีดังนี้
3.1 พฤติกรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้านการเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติ ประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.58 คิดเป็นร้อยละ 85.92 นั่นคือ ผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพ 3 (ดีเยี่ยม)
3.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลังใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้วยกลวิธีการสอนบทบาทสมมติประกอบเพลง “ตามคำพ่อสอน” เพื่อเสริมสร้างค่านิยมความเป็นพลเมืองดี ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยผู้เชี่ยวชาญ มีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.29
direkrit132 06 มี.ค. 2562 เวลา 04:51 น. 0 554
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^