การพัฒนารูปแบบการสอน BBC Math Learning
การพัฒนารูปแบบการสอน BBC Math Learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ) ใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา (Research & Development) โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อสร้างรูปแบบการสอน BBC Math Learning เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอน BBC Math Learning ที่พัฒนาขึ้น ตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลของการใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning ในด้าน 3.1) การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาผลบวกและการแก้โจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 100 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning และ 3.2) ศึกษาความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน จากการเรียนโดยรูปแบบการสอน BBC Math Learning และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) จับสลากรายชื่อห้องในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยรับผิดชอบสอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ รูปแบบการสอน BBC Math Learning ซึ่งเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 21 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าทีแบบไม่อิสระจากกัน (t – test Dependent) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) ผลการวิจัยพบว่า
1.รูปแบบการสอน BBC Math Learning ที่บูรณาการการบริหารสมอง (Brain gym) เทคนิคการระดมสมอง (Brainstorming) ความคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT โดยมีขั้นตอนการสอน 7 ขั้น คือ 1) ขยับกาย ขยายสมอง 2) ฝึกมองรูปธรรม 3) ก้าวนำปัญหา 4) นำมาช่วยคิด 5) พิชิตความรู้ 6) มุ่งสู่หลักเกณฑ์ และ 7) ชัดเจนปัญญา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพรูปแบบการสอน BBC Math Learning โดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก ( = 4.86)
2.รูปแบบการสอน BBC Math Learning มีประสิทธิภาพ 88.85/87.42
3.ผลการใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การหาผลบวกและการแก้โจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 100 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการสอน BBC Math Learning มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
3.2 ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน จากการเรียนโดยรูปแบบการสอน BBC Math Learning พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดริเริ่มอยู่ในระดับพอใช้ คิดเป็นร้อยละ 53.33 มีความคล่องในการคิด อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 76.67 มีความคิดยืดหยุ่น อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 63.33 และมีความคิดละเอียดลอออยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 50.00
4.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning โดยรวม อยู่ระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ รองลงมาคือ รูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในการนำมาใช้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความคล่องในการคิด คิดละเอียดลออ คิดริเริ่มและคิดยืดหยุ่น ตามลำดับ
ผู้วิจัย นวลอนันต์ พรหมสว่าง โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ)
1.รูปแบบการสอน BBC Math Learning ที่บูรณาการการบริหารสมอง (Brain gym) เทคนิคการระดมสมอง (Brainstorming) ความคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT โดยมีขั้นตอนการสอน 7 ขั้น คือ 1) ขยับกาย ขยายสมอง 2) ฝึกมองรูปธรรม 3) ก้าวนำปัญหา 4) นำมาช่วยคิด 5) พิชิตความรู้ 6) มุ่งสู่หลักเกณฑ์ และ 7) ชัดเจนปัญญา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพรูปแบบการสอน BBC Math Learning โดยรวมอยู่ในระดับ ดีมาก ( = 4.86)
2.รูปแบบการสอน BBC Math Learning มีประสิทธิภาพ 88.85/87.42
3.ผลการใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning พบว่า
3.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การหาผลบวกและการแก้โจทย์ปัญหาการบวกที่มีผลบวกไม่เกิน 100 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการสอน BBC Math Learning มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
3.2 ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน จากการเรียนโดยรูปแบบการสอน BBC Math Learning พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคิดริเริ่มอยู่ในระดับพอใช้ คิดเป็นร้อยละ 53.33 มีความคล่องในการคิด อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 76.67 มีความคิดยืดหยุ่น อยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 63.33 และมีความคิดละเอียดลอออยู่ในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 50.00
4.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการสอน BBC Math Learning โดยรวม อยู่ระดับมาก โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ รองลงมาคือ รูปแบบการสอนมีความเหมาะสมในการนำมาใช้พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความคล่องในการคิด คิดละเอียดลออ คิดริเริ่มและคิดยืดหยุ่น ตามลำดับ
ผู้วิจัย นวลอนันต์ พรหมสว่าง โรงเรียนเทศบาล ๓ (วัดพุทธภูมิ)