การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนทางการเรียนวิทยาศาสตร์
เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนทางการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์
พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
ผู้ศึกษา นางสาวจงกลนี บุราณเดช
โรงเรียน สีชมพูศึกษา
ปีที่ทำการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น 2) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้วิชาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสีชมพูศึกษา จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น จำนวน 11 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 17 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.30 – 0.67 ค่าอำนาจความจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23 – 0.62และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน มีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีนักเรียนที่คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 75 จำนวน 22 คน จากนักเรียนทั้งหมด 27 คน คิดเป็นร้อยละ 81.48 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ไม่แตกต่างจากหลังเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีนักเรียนที่คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 75 จำนวน 21 คน จากนักเรียนทั้งหมด 27 คน คิดเป็นร้อยละ 77.78 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น
ผู้ศึกษา นางสาวจงกลนี บุราณเดช
โรงเรียน สีชมพูศึกษา
ปีที่ทำการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น 2) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้วิชาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/9 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสีชมพูศึกษา จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น จำนวน 11 แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 17 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.30 – 0.67 ค่าอำนาจความจำแนกอยู่ระหว่าง 0.23 – 0.62และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน มีคะแนนสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีนักเรียนที่คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 75 จำนวน 22 คน จากนักเรียนทั้งหมด 27 คน คิดเป็นร้อยละ 81.48 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมดซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น วิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 6 เรื่อง แรงและการเคลื่อนที่ พลังงาน มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ไม่แตกต่างจากหลังเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีนักเรียนที่คะแนนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดคือร้อยละ 75 จำนวน 21 คน จากนักเรียนทั้งหมด 27 คน คิดเป็นร้อยละ 77.78 ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้