รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ วิชาโลก
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ วิชาโลก ดาราศาสตร์
และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโนนกอกวิทยา
ชื่อผู้วิจัย นายสนทยา งาชัยภูมิ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนโนนกอกวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ วิชาโลกดาราศาสตร์และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน
โนนกอกวิทยาการศึกษานี้มีความมุ่งหมายดังนี้คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรม 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกสุ่ม
แบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลกดาราศาสตร์และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 แผนรวมทั้งหมด 18 ชั่วโมง ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง
2) ชุดกิจกรรม จำนวน 4 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.71 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.84 และ
4) แบบวัดความพึงพอใจ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ที่มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.66 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.87
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้ t-test
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 โดยประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 82.72 / 82.11
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 0.7238 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.38
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุปชุดกิจกรรม มีประสิทธิภาพเหมาะสมตามเกณฑ์ส่งผลให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามกระบวนการกลุ่ม มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลากทำให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขสนุกสนานมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม ดังนั้น ชุดกิจกรรมนี้จึงควรนำมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกันต่อไป
และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนโนนกอกวิทยา
ชื่อผู้วิจัย นายสนทยา งาชัยภูมิ
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนโนนกอกวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมประกอบการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ วิชาโลกดาราศาสตร์และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียน
โนนกอกวิทยาการศึกษานี้มีความมุ่งหมายดังนี้คือ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรม 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดกิจกรรม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกสุ่ม
แบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลกดาราศาสตร์และอวกาศเพิ่มเติม 1 ว30261 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 9 แผนรวมทั้งหมด 18 ชั่วโมง ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ภาคเรียนที่ 1 เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลง
2) ชุดกิจกรรม จำนวน 4 ชุด 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.71 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.84 และ
4) แบบวัดความพึงพอใจ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ที่มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.66 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.87
การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐาน ใช้ t-test
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ชุดกิจกรรมมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 โดยประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 82.72 / 82.11
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมมีค่าเท่ากับ 0.7238 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.38
3. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุปชุดกิจกรรม มีประสิทธิภาพเหมาะสมตามเกณฑ์ส่งผลให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามกระบวนการกลุ่ม มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลากทำให้นักเรียนเรียนรู้อย่างมีความสุขสนุกสนานมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม ดังนั้น ชุดกิจกรรมนี้จึงควรนำมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกันต่อไป