KRUWANDEE

ชื่อเรื่อง              รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ
             ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้รายงาน            นางกนกพร เสพธรรม
ตำแหน่ง             ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สถานศึกษา        โรงเรียนสุวรรณคูหาพิทยาสรรค์ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู
            สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการศึกษามัธยมศึกษาเขต 19
ปีการศึกษา          2555

บทคัดย่อ

    การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน และ4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ในการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน 1 (อ31201) ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน
    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสุวรรณคูหาพิทยาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 19 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 1 ห้องเรียน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จากห้องเรียนที่จัดนักเรียนแบบคละความสามารถ จำนวนนักเรียน 36 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน จำนวน 9 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจำวัน 1 (อ31201) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ 0.35-0.78 ค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.20-1.00 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 และ3) แบบสอบถามความพึงพอใจ ของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่าน ในชีวิตประจำวัน เป็นแบบมาตรส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (r) ตั้งแต่ 0.31 ถึง 0.64 ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจในการเรียนรู้เท่ากับ 0.80 แบบแผนการทดลองครั้งนี้เป็นแบบ One–Group Pretest–Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานใช้สถิติ กลุ่มตัวอย่างสัมพันธ์กัน (Dependent Samples t-test)



    ผลการศึกษาพบว่า
        1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.31/82.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 75/75
        2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน เท่ากับ 0.74
        3. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่าน ในชีวิตประจำวัน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
        4. นักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน มีความพึงพอใจในการเรียนรู้ อยู่ในระดับมาก

    โดยสรุป ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิต ประจำวัน มีประสิทธิภาพและผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น ผู้เรียนมีความพึงพอใจ ในการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ ชุด การอ่านในชีวิตประจำวัน อยู่ในระดับมาก ดังนั้นครูผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษ ควรนำนวัตกรรมแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษนี้ ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนในทุกระดับชั้น เพื่อให้บรรลุผลตามความมุ่งหมายของหลักสูตรและได้ช่วยให้นักเรียนมีความรู้ มีการพัฒนาศักยภาพและความถนัดของผู้เรียนได้ดีขึ้นได้ลงมือปฏิบัติจริง และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี