LASTEST NEWS

26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพป.สุพรรณบุรี เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.สุพรรณบุรี เขต 1 26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 1 26 เม.ย. 2567เช็ก 48 สาขาวิชาเอก ใช้รับสมัครสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 26 เม.ย. 2567(25 เมษายน 2567) สพฐ.มีหนังสือแจ้งรายละเอียดการสอบแข่งขันฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ปี พ.ศ.2567 26 เม.ย. 2567สพป.กรุงเกรุงเทพมหานคร ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.กรุงเกรุงเทพมหานคร 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 25 เม.ย. 2567สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 2

เผยแพร่ผลงาน รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล

usericon

ชื่อเรื่อง : รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
     ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา
ชื่อผู้วิจัย : นายอำนาจ แรงประโคน
ประเภทผลงานวิชาการ : ผลงานวิจัย
ปีที่วิจัย : 2559

บทคัดย่อ

    การจัดกิจกรรมทักษะการกีฬาฟุตบอลโดยใช้ แบบฝึกทักษะ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นการพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอล ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่ทันต่อเหตุการณ์ ทันความคิด ความก้าวหน้าของโลกได้เช่นเดียวกับการรับข่าวสารจากสื่อชนิดต่างๆ การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนทักษะกีฬาฟุตบอลของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต่อแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ซึ่งได้มาโดยใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากจำนวน 10 ห้องเรียน เลือกมา 1 ห้องเรียน ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียน 42 คน เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ชนิด แบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.24 - 0.69 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.80 ค่าระดับความยาก ( P ) ตั้งแต่ 0.38 – 0.78 แบบสอบถามความพึงพอใจ ที่มีค่าเฉลี่ย 4.47 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.60 และการทดสอบสมมติฐานใช้ t- test (Dependent sample)

        ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
            1. ผลการพัฒนาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 90.00/ 86.66 หมายความว่า ค่าเฉลี่ยของการทำแบบทดสอบย่อยท้ายบทเรียนทั้ง 9 เรื่อง ได้คะแนนเฉลี่ย 706.52คิดเป็นร้อยละ 90.00 และ ผลการทดสอบจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน คิดเป็นร้อยละ 90.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80 /80 ที่ตั้งไว้
            2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา มีค่าเท่ากับ 0.6557 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.57 หมายความว่า ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.57
            3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
            4. คะแนนเฉลี่ยระดับความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านดุงวิทยา ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27
        โดยสรุป แบบฝึกทักษะกีฬาฟุตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทำให้กระบวนการจัดกิจกรรมส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างดี และครูผู้สอนควรนำแบบฝึกกีฬาฟุตบอลที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกฝังให้นักเรียนมีความซื่อสัตย์ ความเสียสละการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สามารถนำความรู้ ประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันควรสนับสนุนให้ครูนำไปใช้ในการเรียนการสอนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^