เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ สาระวิชาภาษาไทย
ชื่อเรื่อง การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ โดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด
สาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ชื่อผู้ศึกษา นายอภิพล วงค์เติ๊ก วิทยฐานะชำนาญการ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ๕๑๑๑๐
บทคัดย่อ
ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผู้ศึกษาสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ทั้งหมด ๗ เล่ม
ดำเนินการศึกษา โดยนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๓๐ ข้อ ไปทดสอบกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๖ ที่เรียนภาษาไทย ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๒๔ คน โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจและเก็บข้อมูลคะแนนไว้ ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ทุกแผน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๙ แผน เวลาที่ใช้ ๒๓ ชั่วโมง ผู้ศึกษาได้เก็บข้อมูลคะแนนของนักเรียนจากการทำแบบฝึกทักษะแต่ละเล่ม เป็นรายบุคคล เมื่อดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกแผนแล้ว ให้นักเรียนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนและความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผลการศึกษาพบว่า
๑. ได้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๗ เล่ม มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๗.๓๓/๘๕.๙๗ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้๘๐/๘๐
๒. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่านักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนวิชาภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ ๔.๓๓ อยู่ในระดับมาก และเวลาที่ใช้ในการทำแบบฝึกทักษะพอเพียงและเหมาะสมซึ่งมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดอยู่ที่ ๔.๕๔
สาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ชื่อผู้ศึกษา นายอภิพล วงค์เติ๊ก วิทยฐานะชำนาญการ
สถานที่ทำงาน โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ๕๑๑๑๐
บทคัดย่อ
ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผู้ศึกษาสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ทั้งหมด ๗ เล่ม
ดำเนินการศึกษา โดยนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๓๐ ข้อ ไปทดสอบกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๖ ที่เรียนภาษาไทย ในภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๘ จำนวน ๒๔ คน โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจและเก็บข้อมูลคะแนนไว้ ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้ทุกแผน โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๙ แผน เวลาที่ใช้ ๒๓ ชั่วโมง ผู้ศึกษาได้เก็บข้อมูลคะแนนของนักเรียนจากการทำแบบฝึกทักษะแต่ละเล่ม เป็นรายบุคคล เมื่อดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกแผนแล้ว ให้นักเรียนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน และให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนและความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทยโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิด สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
ผลการศึกษาพบว่า
๑. ได้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๗ เล่ม มีประสิทธิภาพ เท่ากับ ๘๗.๓๓/๘๕.๙๗ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้๘๐/๘๐
๒. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โดยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑
๓. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญโดยใช้เทคนิคแผนผังความคิดสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่านักเรียนมีความคิดเห็นต่อการเรียนวิชาภาษาไทย มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ ๔.๓๓ อยู่ในระดับมาก และเวลาที่ใช้ในการทำแบบฝึกทักษะพอเพียงและเหมาะสมซึ่งมีค่าเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นมากที่สุดอยู่ที่ ๔.๕๔