เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นุชนาฏ หระมาตย์
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การสร้างคุณภาพการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนหัวคูประชาอุทิศ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 ได้มาจากการเลือกสุ่มตัวอย่าง โดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability Sampling) แบบเจาะจง (Purposive Sampling)ประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกันของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 15 รายการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test แบบ Dependent
ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 เล่ม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.28/85.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 คะแนนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน มีค่าเท่ากับ 0.7167 และนักเรียนมีค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในระดับมากที่สุด
เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นุชนาฏ หระมาตย์
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การสร้างคุณภาพการเรียนการสอนโดยใช้เอกสารประกอบเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา คือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ของโรงเรียนหัวคูประชาอุทิศ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1 ได้มาจากการเลือกสุ่มตัวอย่าง โดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability Sampling) แบบเจาะจง (Purposive Sampling)ประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกันของนักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 15 รายการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test แบบ Dependent
ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 9 เล่ม มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.28/85.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 คะแนนจากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน มีค่าเท่ากับ 0.7167 และนักเรียนมีค่าเฉลี่ยของระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรื่อง งานประดิษฐ์จากเศษผ้ามีค่าน่าใช้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในระดับมากที่สุด