LASTEST NEWS

27 ก.ค. 2567โอกาสมาแล้ว!! น้องนิสิต นักศึกษาครู เชิญทางนี้ กรุงเทพมหานคร เปิดสอบครูผู้ช่วย (โครงการช้อนครู) 322 อัตรา รับสมัคร 30 ก.ค. - 2 ส.ค.2567 27 ก.ค. 2567เมืองพัทยา เปิดสอบผู้ช่วยครูผู้ช่วย จำนวน 17 อัตรา รับสมัคร 1-9 สิงหาคม 2567  26 ก.ค. 2567สพป.นนทบุรี เขต 2 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบ 2 ปี 2567 จำนวน 15 อัตรา - รายงานตัว 6 สิงหาคม 2567 26 ก.ค. 2567สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 2 จำนวน 11 อัตรา - รายงานตัว 1 สิงหาคม 2567 26 ก.ค. 2567สพป.ปทุมธานี เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 2 จำนวน 5 อัตรา - รายงานตัว 6 สิงหาคม 2567 25 ก.ค. 2567“ศธ.-มท.” เตรียมสุ่มตรวจยาเสพติดโรงเรียน 25 ก.ค. 2567สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย บัญชีปี พ.ศ.2566 รอบที่ 7 จำนวน 1 อัตรา - รายงานตัว 1 สิงหาคม 2567 25 ก.ค. 2567สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย บัญชีปี พ.ศ.2567 รอบที่ 2 จำนวน 9 อัตรา - รายงานตัว 1 สิงหาคม 2567 25 ก.ค. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 6 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. ปี 2567 รอบที่ 2 จำนวน 8 อัตรา - รายงานตัว 7 สิงหาคม 2567 24 ก.ค. 2567ยินดีด้วยครับ ! สพป.นครราชสีมา เขต 4 เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบ 2 จำนวน 80 อัตรา - รายงานตัว 30 กรกฎาคม 2567

"สมพงษ์"จวกร่างปฏิรูปศึกษาตีไม่ตรงจุด ประเด็นสำคัญถูกกลืน/ชี้อาจส่งผลขาดแรงผลักดันบรรลุเป้าหมาย

  • 07 ธ.ค. 2557 เวลา 11:26 น.
  • 1,320
"สมพงษ์"จวกร่างปฏิรูปศึกษาตีไม่ตรงจุด ประเด็นสำคัญถูกกลืน/ชี้อาจส่งผลขาดแรงผลักดันบรรลุเป้าหมาย

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

"สมพงษ์"จวกร่างปฏิรูปศึกษาตีไม่ตรงจุด ประเด็นสำคัญถูกกลืน/ชี้อาจส่งผลขาดแรงผลักดันบรรลุเป้าหมาย
 
"สมพงษ์" จวกยับ สปช.ร่างกฎหมายปฏิรูปการศึกษาแก้ปัญหาของประเทศไม่ตรงจุด กว้างเกินไปจนขาดความชัดเจน ประเด็นสำคัญถูกกลืนหายไม่เด่นชัด อาจส่งผลให้ไม่มีแรงผลักดันการปฏิรูปให้ประสบผลสำเร็จ ในทางกลับกัน ในบางข้อไม่ควรระบุแต่เขียนไว้ "อมรวิชช์" แจงแค่ก้าวแรก จะมี กม.ลูกที่กำหนดรายละเอียดตามมา  
 
    นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงร่างเนื้อหาด้านการศึกษาที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จัดทำขึ้นเพื่อบรรจุในรัฐธรรมนูญ ที่มีสาระสำคัญ 7 ข้อ ว่า จากข้อเสนอของ กมธ.ปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตนคิดว่าการเขียนกฎหมายที่สำคัญระดับประเทศ หากเขียนในความหมายที่กว้างเพื่อในครอบคลุมในทุกเรื่อง ตัวกฎหมายดังกล่าวจะออกมาในลักษณะการบอกเล่า ที่ทำหน้าที่บอกว่ารัฐควรจะทำอะไร รัฐจะมีอะไรเท่านั้น ไม่สามารถบังคับใช้ สร้างแรงผลักดันให้เกิดการปฏิรูปการศึกษา และอาจจะทำให้ตีความในด้านเนื้อหาแตกต่างกันออกไปได้ อีกทั้งวัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะต้องเขียนสั้น กระชับ เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้ตรงจุดและชัดเจน  
 
    นายสมพงษ์กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าการร่างกฎหมายให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมจะส่งผลให้ประเด็นปัญหาที่สำคัญทางด้านการศึกษาของประเทศถูกกลืนและไม่เด่นชัด ทั้งยังไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างตัวร่างกฎหมายกับประเด็นปัญหาด้านการศึกษาของประเทศอีกด้วย และในร่างเนื้อหาดังกล่าวถือว่ามีการบรรจุคำสำคัญไว้ อย่างเช่น ความรับผิดชอบ ซึ่งตนคิดว่าในเรื่องของความรับผิดชอบนั้นไม่ควรจำกัดอยู่แค่ผู้บริหารและสถานศึกษา แต่ควรที่จะครอบคลุมไปถึงฝ่ายการเมือง, กระทรวงศึกษาธิการ, (ศธ.) คณะกรรมการที่จะเข้ามาดูแลการปฏิรูปให้มีความต่อเนื่อง และกลุ่มผลประโยชน์ที่เข้ามาแทรกแซงในตัวนโยบาย ทำให้การศึกษาไม่เกิดการพัฒนา ทุกฝ่ายควรจะต้องมีส่วนในการรับผิดชอบร่วมกันหากการศึกษาที่จัดไปแล้วล้มเหลว และควรจะบัญญัติการสร้างให้คนในประเทศ ให้เป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรียนรู้ในเรื่องสิทธิและหน้าที่ต่างๆ ให้เป็นหน้าที่ของรัฐ เพราะขณะนี้ประเทศไทยประสบกับปัญหาที่คนในประเทศมีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 2 ขั้ว ถือเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของประเทศ และในอดีต ศธ.ก็ไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาดูแลเลย 
 
    นักวิชาการกล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ในเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่มีทั้งในชุมชนเมืองและชนบทนั้น ก็ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญของรัฐอีกประการหนึ่งที่จะต้องจัดสรรให้มีความเท่าเทียมกัน และในบางข้อควรที่จะอยู่ในกฎหมายด้านการศึกษามากกว่าที่จะถูกบรรจุลงในรัฐธรรมนูญ 
 
    “ผมคิดว่าในบางข้อควรที่จะอยู่ในกฎหมายด้านการศึกษามากกว่าที่จะถูกบรรจุลงในรัฐธรรมนูญ เช่น ข้อ 6 รัฐต้องส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ในสังคมไทย โดยให้มีแหล่งเรียนรู้และสื่อสาธารณะด้านการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม และศาสนา เพื่อบ่มเพาะจิตสำนึกความเป็นพลเมืองไทยที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นต้น เพราะเนื้อหาในรัฐธรรมนูญควรที่จะเป็นหลักการที่สำคัญของรัฐ และในข้อดังกล่าว เนื้อหาเป็นไปในเรื่องของการศึกษามากเกินไป ควรใส่ไว้ในกฎหมายด้านการศึกษามากกว่า เพื่อที่จะให้เป็นตัวขับเคลื่อนเชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญ และจากสาระสำคัญทั้ง 7 ข้อนี้ ผมคิดว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่ยังไม่ดีที่สุด” สมพงษ์กล่าว
 
    ด้านนายอมรวิชช์ นาครทรรพ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กล่าวว่า การร่างเนื้อหาด้านการศึกษาเพื่อบรรจุลงในรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะไม่ใช่การร่างกฎหมายจำนวน 200 หน้าเหมือนกับรัฐธรรมนูญปี 50 แต่จะลงรายละเอียดของเรื่องต่างๆ ในตัวกฎหมายลูก ที่ขณะนี้กำลังประสานกับ ศธ.เพื่อแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติ กฎกระทรวงต่างๆ ซึ่งในส่วนของรายละเอียดที่จะสร้างความชัดเจนในแต่ละเรื่องจะมีการดำเนินการต่อไป และนอกจากนี้มีความคิดเห็นจากหลายกระแส ว่าควรจะเพิ่มในหลายเรื่อง ซึ่งในเรื่องสื่อการเรียนการสอนก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อเป็นการบังคับรัฐไปในตัวให้มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) สร้างสื่อเพื่อการศึกษา ก่อนหน้านี้ใน กมธ.ปฏิรูปการศึกษาฯ ก็มีการถกเถียงกันว่าจะมีการบรรจุหรือไม่ จนได้ข้อสรุปว่าจะต้องบรรจุ เพราะเรื่องสื่อไอซีทีเป็นเรื่องที่สำคัญและอยู่ในแผนมหภาคของประเทศ และเมื่อร่างเนื้อหาด้านการศึกษาเข้าไปสู่กระบวนการของ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ก็อาจจะมีการเพิ่มเติมในเรื่องอื่นได้ เช่น ครู เป็นต้น
 
    นายอมรวิชช์กล่าวต่อว่า ตัวกฎหมายแม่บทที่จะร่างลงในรัฐธรรมนูญนี้เกี่ยวข้องกับแผนมหภาคของประเทศหลายๆ ด้าน ทั้งนี้ ในส่วนของความรับผิดชอบในการจัดการศึกษา ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นการโยนภาระไปที่สถานศึกษา เพราะจริงๆ แล้วความรับผิดชอบมีอยู่ในทุกระดับ ไล่เรียงกันลงไป แต่ในอุดมคติของการกระจายอำนาจคือกระจายไปยังโรงเรียน เพราะฉะนั้นโรงเรียนก็จะเป็นหลักให้การรับผิดชอบทั้งในเรื่องดีและไม่ดี แต่จะรับผิดชอบในด้านใดบ้างนั้นต้องกำหนดในกฎหมายลูกอีกครั้งหนึ่ง
 
    “ผมคิดว่าขณะนี้ขอให้มองร่างกฎหมาย 7 ข้อเสนอเป็นเรื่องของหลักการก่อน เพื่อให้กฎหมายลูกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมีแนวปฏิบัติมาจากร่างดังกล่าว และในขั้นตอนการลงรายละเอียดของกฎหมายลูก จะมีกระบวนการการรับฟัง เชิญนักวิชาการ ประชาชน และเยาวชนมาช่วยระดมกันคิด เพราะกฎหมายลูกที่ต้องแก้ไขนั้นมีจำนวนมาก และจะทำ 7 ข้อเสนอดังกล่าวมีความชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ กมธ.ก็จะเดินหน้าลงรายละเอียดต่อไป นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น” โฆษก กมธ.ปฏิรูปการศึกษาฯ กล่าว และว่า สำหรับในส่วนของการสร้างคนให้เป็นพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้อนี้เป็นความเห็นที่ กมธ.ในทุกคณะแสดงออกอย่างตรงกัน จึงจัดอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญรวม เพื่อบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นเพียงเรื่องของการศึกษาเท่านั้น.
 
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 5 ธันวาคม 2557
 
  • 07 ธ.ค. 2557 เวลา 11:26 น.
  • 1,320

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : "สมพงษ์"จวกร่างปฏิรูปศึกษาตีไม่ตรงจุด ประเด็นสำคัญถูกกลืน/ชี้อาจส่งผลขาดแรงผลักดันบรรลุเป้าหมาย

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^