LASTEST NEWS

17 มี.ค. 2567ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 17 มี.ค. 2567โรงเรียนสตรีนครสวรรค์ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกภาษาไทย เงินเดือน 12,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 - 26 เมษายน พ.ศ. 2567 17 มี.ค. 2567ด่วน! กรุงเทพมหานคร เปิดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ 15 วิชาเอก 730 อัตรา รับสมัคร รอบที่ 1 ตั้งแต่ 20-26 มี.ค.2567 และรอบที่ 2 ตั้งแต่ 31 พ.ค.-14 มิ.ย.2567 16 มี.ค. 2567โรงเรียนหนองแค“สรกิจพิทยา” รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 12,000.- บาท ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม - 24 มีนาคม 2567 16 มี.ค. 2567โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์(วัดน้อยใน)ในพระราชูปถัมภ์ฯ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาสังคมศึกษา เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้-22 มีนาคม 2567 16 มี.ค. 2567โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ 2 รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา เงินเดือน 15,000.- บาท ตั้งแต่ 18-22 มี.ค.2567 16 มี.ค. 2567สพฐ. สั่งเด้งด่วน! ผอ.หวงเก้าอี้ ฮึ่มเร่งสอบข้อเท็จจริง ภายใน 7 วัน 16 มี.ค. 2567สพฐ. สั่ง ผอ.เขต รายงานด่วน ”ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้“ พร้อมกำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย 16 มี.ค. 2567โรงเรียนบางปะอิน "ราชานุเคราะห์ 1" รับสมัครครูอัตราจ้าง 2 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 11 – 20 มีนาคม 2567 เว้นวันหยุดราชการ  16 มี.ค. 2567ครูจบใหม่เฮ! ขึ้นเงินเดือนครู ครูผู้ช่วยรับ 18,000 บาท เช็กฐานเงินเดือนครู

แฉต้นตอการศึกษาไทยล้าหลัง สร้างพลเมืองเฉื่อยชา เด็กอ่านหนังสือไม่ออก

  • 18 ต.ค. 2561 เวลา 22:41 น.
  • 11,050
แฉต้นตอการศึกษาไทยล้าหลัง สร้างพลเมืองเฉื่อยชา เด็กอ่านหนังสือไม่ออก

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

แฉต้นตอการศึกษาไทยล้าหลัง สร้างพลเมืองเฉื่อยชา เด็กอ่านหนังสือไม่ออก

 อีกแล้วกับความล้มเหลวการศึกษาไทย เมื่อรายงานดัชนีทุนมนุษย์ของธนาคารโลกตีพิมพ์วันที่ 11 ต.ค. ออกมาระบุคุณภาพการศึกษาไทยยังไม่ได้มาตรฐาน

มีการประเมินว่า เด็กไทยเฉลี่ยเข้าเรียนในระบบการศึกษา เป็นเวลารวม 12.4 ปี จนถึงอายุ 18 ปี แต่เมื่อพิจารณาถึงคุณภาพการเรียนรู้แล้ว เท่ากับเด็กได้รับการศึกษาเพียง 8.6 ปีเท่านั้น โดย 3.8 ปี ที่หายไป ก็เพราะคุณภาพการศึกษาไทย ยังไม่ได้มาตรฐาน

ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร? จริงหรือไม่? เกี่ยวกับประเด็นร้อนในเรื่องนี้ ด้าน ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีประสบการณ์ในการสอนและทำวิจัยด้านการศึกษามานาน กว่า 30 ปี ยอมรับกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ว่า เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จึงไม่แปลกใจที่เด็กไทยอ่านไม่ออก เขียนไม่คล่อง เนื่องจากปัญหาการศึกษาของไทยติดหล่ม ล้าหลังมานาน ซึ่งข้อมูลธนาคารโลก แสดงให้เห็นว่าไทยมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยเด็กในท้องถิ่นห่างไกล มีความล้าหลังด้านการศึกษา 3-4 ปี หากเทียบกับเด็กในเมือง

“เด็กในพื้นที่ห่างไกล ล้าหลังทั้ง 3 ช่วงการศึกษา ยกตัวอย่างเรียนชั้นม.3 มีความรู้เท่ากับเรียนชั้น ม.1 หรือเรียนชั้น ม.6 เท่ากับชั้นม.3 จากปัญหาคุณภาพของสื่อการสอน ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในไทย กลายเป็นตัวกับดักการศึกษาไทย”

นอกจากนี้ ปัญหาการศึกษาของไทยยังเกิดจาก 4 ปัจจัยหลัก 1. นโยบายการศึกษาไม่มีความต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน เนื่องจากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ยึดความสนใจของตัวเองและของพรรคการเมืองเป็นหลัก 2. ระบบการศึกษาของไทยเต็มไปด้วยกฎระเบียบมากเกินไป ทำให้บุคลากรในกระทรวงศึกษา รวมถึงครู เกิดการยึดติดในกรอบ ไม่กล้าคิดแตกต่าง เนื่องจากต้องยึดในระเบียบกฎเกณฑ์ จนในที่สุดครู มีการปล่อยปละละเลยการเรียนการสอน

“ระเบียบกฎเกณฑ์จุกจิกมากเกินไป ทำให้คนในกระทรวงคิดแต่เรื่องที่จะแข่งขัน ไต่เต้า เรื่องนี้เป็นข้อมูลใหม่ว่าทำไม เมื่อมีนักวิชาการมาวิจารณ์การศึกษาไทย แล้วทางกระทรวงศึกษาฯ กลับไม่สนใจ ไม่แคร์ และยังทำงานอยู่ในกรอบระเบียบกฎเกณฑ์ แม้มีงานวิจัยกว่าหมื่นชิ้นออกมาวิจารณ์ก็ไม่ระคายเคือง เพราะเขาไม่ต้องเดือดร้อน เมื่อถึงสิ้นปีเงินค่าจัดการศึกษาก็เพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกับคุณภาพการศึกษาที่ด้อยลง เดินหน้าลงคลอง สอนแบบเดิมๆ”

ส่วนข้อ 3. การศึกษาของไทยไม่มีระบบการเรียนรู้ เน้นดิจิตอล เน้นการค้นหาเรียนรู้ด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดการคิดแตกต่าง สร้างสรรค์ แต่ไปเน้นเรื่องเนื้อหาสาระ การท่องจำ เมื่อเด็กเรียนจบสอบผ่านก็จะทิ้งสิ่งที่ท่องจำไป ทำให้เป็นคนยึดติดแต่กรอบ กลายเป็นพลเมืองเฉื่อยชา ซึ่งนับวันเด็กไทยจะถูกทำลาย จากหลักสูตรที่ออกแบบล้าหลัง ให้ครูสอนแบบบรรยาย เน้นให้เด็กเรียนมากๆ และข้อ 4. ไทยไม่มีปรัชญาการศึกษา มีแต่การแข่งขัน ซึ่งจะเห็นการติววิชาต่างๆ เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อการสอบแข่งขัน มีการประกันเรื่องคุณภาพการศึกษา จนเป็นสาเหตุทำให้ครูออกจากห้องเรียนมากถึง 66 วัน จึงถือเป็นความล้าหลังอย่างมาก


“ถามใครจะขับเคลื่อนทำให้กระทรวงศึกษา ออกมายอมรับและเปลี่ยนแปลง เพราะนักการเมืองเข้ามาก็ทำงานแบบวูบวาบ รวมถึงคนในกระทรวง เมื่อคนออกมาวิจารณ์ ก็จะวูบวาบสักพักแล้วจะเงียบไป ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2540 การศึกษาของไทยยังไม่มีการเปลี่ยนหลักสูตรที่ใช้มานาน 20 กว่าปี ถือเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับอนาคตของการศึกษาไทยที่ถอยหลัง หากยังไม่มีใครมาจัดการ คงไม่ถึงไทยแลนด์ 4.0 เพราะตอนนี้แค่ 2.0 จนประเทศอื่นในอาเซียนไปไกลหมดแล้ว เวียดนามวิ่งแซงหน้า มีเหนือกว่าก็กัมพูชา กับลาว เท่านั้น”

พร้อมบอกอีกว่าการปฏิรูปการศึกษา ต้องตั้งคนมีความรู้มาปฏิรูป ดำเนินการจากข้างล่างมาสู่ข้างบน เน้นการมีส่วนร่วม ซึ่งการปฏิรูปการศึกษาในปัจจุบัน มีแผนนโยบายหลายอย่างที่ยอมรับได้โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำ มีการตั้งกองทุนเกี่ยวกับการศึกษา และการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน แต่ที่ผ่านมากลับเงียบ ไม่ดึงคนมามีส่วนร่วมรับฟัง และหากดำเนินนโยบายจริงจัง โดยส่วนตัวมองว่าไม่ต้องรอให้ถึง 20 ปีตามยุทธศาสตร์ชาติ คิดว่า 10 ปี จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน นอกจากนี้ ต้องปลดล็อกกระทรวงศึกษาธิการ ให้โรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่เป็นอิสระ.

ขอบคุณเนื้อหาและที่มาของข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 18 ตุลาคม 2561 
  • 18 ต.ค. 2561 เวลา 22:41 น.
  • 11,050

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

^