LASTEST NEWS

26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพป.แพร่ เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพป.แพร่ เขต 1 26 เม.ย. 2567ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ  26 เม.ย. 2567สพป.ชัยนาท ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ชัยนาท 26 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 26 เม.ย. 2567สพม.นครศรีธรรมราช ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครศรีธรรมราช 26 เม.ย. 2567สพม.ลพบุรี ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.ลพบุรี 26 เม.ย. 2567สพม.สุรินทร์ ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 2) - ผลย้ายครู 2567 สพม.สุรินทร์ 26 เม.ย. 2567สพป.ตาก เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ตาก เขต 1 26 เม.ย. 2567สพป.ลำพูน เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ลำพูน เขต 2

แนะสมศ.คิดใหม่ตัวบ่งชี้ประเมินรอบสี่

  • 25 ก.ค. 2557 เวลา 06:49 น.
  • 2,358
แนะสมศ.คิดใหม่ตัวบ่งชี้ประเมินรอบสี่

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

"วุฒิชัย" ค้านนำเงินบริจาคศิษย์เก่ามาประเมิน ชี้ทำได้ยาก ติงสมศ.เลียนแบบตะวันตกไม่ดูการปฏิบัติของคนไทย ด้าน"กำจร"แนะ สมศ.ทบทวนตัวบ่งชี้ประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ใหม่
 
วันนี้ ( 24 ก.ค.) รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( มก. ) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.)ได้ประกาศเกณฑ์และตัวบ่งชี้การประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่สี่ผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งมีตัวบ่งชี้หนึ่งที่จะวัดมูลค่าทรัพย์สินที่ศิษย์เก่าบริจาคให้สถานศึกษา โดยหากสถานศึกษามีอายุเกิน 30 ปี และนักเรียนเกิน 3,000 คน จะต้องมีการบริจาคจากศิษย์เก่าเป็นมูลค่า 20 ล้านบาท จึงจะผ่านในระดับดีมาก ว่า การนำศิษย์เก่ามาเป็นตัวบ่งชี้หนึ่งในการประเมินมหาวิทยาลัยก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องชี้ให้ชัดว่าจะประเมินศิษย์เก่าในเรื่องอะไร จะเกิดผลดี ผลเสียอย่างไร ส่วนที่จะนำเรื่องการสนับสนุนเงินทุนพัฒนามหาวิทยาลัยนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย และหากเป็นมหาวิทยาลัยไทยตนว่าคงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะวัฒนธรรมหรือการปฏิบัติของคนไทยส่วนใหญ่หากหาเงินมาได้จะเก็บไว้ให้ลูก หรือ อาจจะมีบริจาคบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งจะต่างจากชาวตะวันตกเมื่อหาเงินมาได้จะกันเงินบางส่วนให้ลูกและจะยกให้การกุศล หรือสถานศึกษา ศิษย์เก่าบางคนบริจาคเงินให้สถาบันการศึกษา100-200 ล้านบาทก็มี ส่วนลูกเมื่อโตขึ้นจะไปหาเลี้ยงตัวเองไม่มารอเงินจากพ่อแม่ ดังนั้น สมศ.จะมาเอาอย่างชาวตะวันตกไม่ได้ แต่ทางที่ดีตนว่าน่าจะประเมินผลจากผู้ใช้บัณฑิตจะดีที่สุดเพราะเป็นผู้ใช้บัณฑิตจริงๆ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าบัณฑิตที่จบออกมานั้นมีคุณภาพและสามารถทำงานได้จริงหรือไม่
 
ด้าน รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยมีเสียงสะท้อนว่าตัวบ่งชี้ของ สมศ.หลายตัวที่ไม่สามารถสะท้อนคุณภาพของสถาบันการศึกษาได้อย่างการกำหนดว่า สถาบันอุดมศึกษาจะต้องมีฐานข้อมูลของตัวเอง เช่น ต้องมีห้องสมุดที่เก็บข้อมูลที่ทันสมัย สืบค้นได้ง่าย ซึ่งสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งปฏิบัติได้ยาก เพราะไม่มีงบประมาณ หรือการบริจาคเงินของศิษย์เก่าก็ไม่น่าจะสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาได้เช่นกัน และการจะให้มีเงินบริจาคได้จำนวนมาก สถาบันนั้นจะต้องสะสมศิษย์เก่าจำนวนมาก และศิษย์เก่าต้องมีงานทำด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆเหล่านี้ตนเชื่อว่าไม่ได้เป็นการสะท้อนถึงคุณภาพการจัดการศึกษาได้ ดังนั้น สมศ.ต้องมาทบทวนตัวบ่งชี้บางตัวที่ไม่สามารถสะท้อนคุณภาพการศึกษาได้จริงๆ.
 
 
  • 25 ก.ค. 2557 เวลา 06:49 น.
  • 2,358

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : แนะสมศ.คิดใหม่ตัวบ่งชี้ประเมินรอบสี่

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^