บอร์ด กยศ.มีมติของบกลาง 3,104 ล้านบ. อุ้มผู้กู้รายใหม่ 2.3 แสนราย
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
บอร์ด กยศ.มีมติของบกลาง 3,104 ล้านบาท ดูแลผู้กู้รายใหม่ 2.3 แสนรายอย่างทั่วถึง ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ชง ครม.พิจารณา ต้องเร่งดำเนินการให้ชัดเจนเพราะเด็กลังเลกลัวไม่มีเงินกู้เรียนต่อปริญญา ส่วน เด็ก ม.ปลาย-ปวช.คลายกังวลมีงบในบัญชีจ่ายที่หนึ่งรองรับอยู่แล้ว จี้กองทุน กรอ.เร่งประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์+สาขาที่เปิดกู้ยืม เพราะเงินเหลือจำนวนมาก
จากกรณีที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ถูกตัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 6,700 ล้านบาท ส่งผลให้ผู้กู้รายเก่าและรายใหม่ ไม่สามารถกู้ยืมเงินได้ตามเป้านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มี.ค.57 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(บอร์ด กยศ.) ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ มีมติเห็นด้วยในหลักการว่า ต้องของบกลางเป็นเงินทั้งสิ้น 3,104 ล้านบาท จากเดิมที่ กยศ.ทำเรื่องของบกลางสำหรับผู้กู้รายใหม่เพียง 112,500 ราย เป็นเงิน 1,408 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้ครอบคลุมจำนวนผู้กู้รายใหม่ 234,000 ราย
เนื่องจากการสำรวจความต้องการผู้ยืมในแต่ละปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มมีผู้ขอกู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ กยศ.ถูกตัดงบประมาณไปถึง 6,700 ล้านบาท แต่ของบกลางเพียง 1,408 ล้านบาท เพื่อผู้กู้รายใหม่ 112,500 คน นั้น ไม่เพียงพอแน่นอน เพราะจากการสำรวจของ ศธ. มีแนวโน้มว่า จะมีผู้กู้ยืมรายใหม่ 234,000 ราย เพราะฉะนั้นอย่างน้อยต้องมีเงินกู้ให้เด็กได้กู้ยืมอย่างเพียงพอ ศธ.จึงได้ยืนยันว่าจะต้องของบกลาง เพิ่มขึ้นอีก 1,696 ล้านบาท รวมเป็น 3,104 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้คณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางและมาตรฐานการจัดสรรเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธาน ไปทำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพิจารณาต่อไป
"ประเด็นคือจำเป็นต้องของบกลาง มิฉะนั้น กยศ.จะขาดเงิน และหากรอให้ กยศ.ขาดเงินแล้วค่อยของบ กลางจะไม่ทันการเพราะเด็กต้องเข้าเรียนแล้ว ที่สำคัญเด็กมีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ใช้เงินกู้เป็นตัวตัดสินว่าจะเรียนต่อหรือไม่ ถึงแม้จะมีข้ออ้างว่ามหาวิทยาลัยได้มีการเลื่อนเปิดภาคเรียนต่อไป แต่มหาวิทยาลัยก็เริ่มรับตรงกันไปแล้ว เพราะฉะนั้นจะรอให้เงินหมดแล้วค่อยของบกลางไม่ได้"
ปลัด ศธ. กล่าวและว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กับ กยศ.แล้วว่าจะเร่งดำเนินการได้รวดเร็วเพียงใด แต่คิดว่าควรต้องพยายามเสนอเรื่องเข้า ครม.ให้เร็วที่สุด หากเป็นไปได้อยากให้เข้าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตามหากขอแล้วไม่ได้ ศธ.ก็คงยอมไม่ได้ จะต้องขอให้ได้ เพราะเป็นเรื่องที่กระทบเด็กจำนวนมาก
นางสุทธศรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่มีข่าวว่านักเรียนกำลังลังเลที่จะเรียนต่อในสายอาชีวศึกษา เพราะเกรงว่าจะไม่มีเงินกู้ยืมเรียนนั้น ขอให้สบายใจได้ว่ามีเงินให้กู้แน่นอน เพราะบัญชีจ่ายที่หนึ่ง ที่ดูแลนักเรียนม.ปลายและปวช.ได้เตรียมการรองรับไว้แล้ว สำหรับนักเรียนในสายอาชีวศึกษาที่จะเพิ่มขึ้นตามนโยบายเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนสายอาชีวะ โดยสามารถโยกเงินในสัดส่วนของเด็กม.ปลายมาให้ได้ในกรณีที่ผู้กู้ยืมสายอาชีวะมีมากกว่าโควตาที่ได้รับจัดสรร
นอกจากนี้บอร์ด กยศ.ยังได้ขอให้มีการประชาสัมพันธ์กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.)ให้มากขึ้น โดยไม่ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกู้ยืม แต่ขอให้เชิญชวนนักเรียนที่จบ ม.ปลาย ได้ศึกษารายละเอียดของ กรอ.ให้ดี เพราะมีสาขาที่กู้ยืมได้เป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาก็มีเงินเหลืออยู่จำนวนมาก
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ วันที่ 28 มีนาคม 2557