1อำเภอ1ทุนพลาดเป้าส่อเปิดรอบ4
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
1 อำเภอ 1 ทุนรุ่น 4 เปิดรอบ 3 ไม่ได้ตามเป้า ส่อต้องเปิดรอบ 4 อีก “อ๋อย” เล็งปรับเกณฑ์ลดความยากข้อสอบ เพิ่มโอกาสนักเรียนสายอาชีพ เตรียมชงเข้า ครม.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการดำเนินการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ว่า ขณะนี้มีเรื่องที่ต้องพิจารณาเนื่องจากจำนวนผู้รับทุนรุ่นที่ 4 ไม่เป็นไปตามเป้าหมายแม้จะมีการดำเนินการรับไปแล้ว 2 รอบ แต่ยังมีทุนคงเหลือ 1,619 ทุน ซึ่ง ศธ.ก็กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการเปิดรับสมัครรอบ 3 โดยจะส่งเสริมนักเรียนอาชีพได้มีโอกาสรับทุนเพื่อไปเรียนในต่างประเทศซึ่งกำลังดูหลักเกณฑ์กันอยู่ และคาดว่าจะมีผู้ได้รับทุนไปเรียนบ้าง แต่เรื่องที่ต้องพิจารณาจริงจัง และตนเพิ่งได้รับข้อมูลเมื่อไม่นานนี้ว่าทุน 2 ประเภทคือ ทุนประเภทเรียนดี แต่รายได้น้อยไม่เกินครอบครัวละ 200,000 บาทต่อปี ซึ่งรุ่นนี้มีนักเรียนได้ทุนน้อย และทุนประเภทเรียนดี ไม่จำกัดรายได้ นักเรียนส่วนใหญ่เลือกเรียนในประเทศหรือประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งแม้จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ แต่กลับไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการนี้แต่ต้น รวมถึงที่ผ่านมาเป็นข้อสอบที่ครอบคลุมเนื้อหาทุกวิชา ซึ่งอาจจะยากเกินความจำเป็น สาขาบางด้านอาจใช้เฉพาะบางวิชา เช่น วิชาสายวิทย์ จะเน้นสายวิทย์เท่านั้น เป็นต้น ทำให้ผลออกมาเป็นที่เห็นต้องมาทบทวนอย่างจริงจัง
“เสียดายที่ผมเพิ่งได้ข้อมูลไม่นานแล้วก็พบว่าทุนประเภทแรกมีเด็กได้ทุนน้อยจนน่าตกใจ และยังมีเด็กส่วนใหญ่ในรุ่นนี้เลือกเรียนในประเทศ หรือแม้เลือกไปเรียนต่างประเทศก็เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งก็เป็นตามหลักเกณฑ์ที่มีอยู่จะโทษตำหนิใครไม่ได้ แต่ต่างไปจากวัตถุประสงค์เดิมทำให้เราขาดเด็กไปเรียนต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรอบ 3 ที่เปิดรับสมัครอยู่ก็ให้ดำเนินการต่อไป แต่หากยังได้ไม่ครบจำนวนก็อาจจะต้องรับรอบที่ 4 ทั้งนี้ต้องไปดูในเรื่องของงบประมาณด้วยว่ามีเพียงพอหรือไม่” นายจาตุรนต์กล่าว
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทุน 1 อำเภอ 1 ทุนนั้น เป็นทุนการศึกษาเพื่อให้โอกาสเด็กยากจนมีโอกาสมากขึ้น ส่งเสริมให้นักเรียนไปเรียนต่างประเทศเป็นหลัก และให้ไปเรียนในประเทศที่นักเรียนไทยสนใจไปเรียนน้อย แต่มีวิทยาการที่ก้าวหน้า หรือประเทศที่สามารถแก้ปัญหาในเรื่องของความขาดแคลนทางด้านบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ สำหรับการปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว ถ้าไม่แก้หลักเกณฑ์อะไรเลย ผลที่ตามมาคือจะไม่มีคนได้ทุนเลยหรืออาจจะได้น้อย ซึ่งตนคิดว่าจะสามารถปรับหลักเกณฑ์ได้โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจทำได้โดยเมื่อเสนอขอแก้ไขหลักเกณฑ์เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ก็จะกำหนดให้ชัดเจนว่าการปรับแก้ไขนี้ให้มีผลเฉพาะในปีงบประมาณนี้เท่านั้น ไม่มีการใช้งบประมาณเพิ่มเติมและไม่กระทบต่อ โดยจะมีการปรับหลักเกณฑ์ในกรณีที่ยังเหลือทุนต่อๆ ไป หากไม่ทันก็จะทำเป็นสรุปหลักเกณฑ์ไว้ในรุ่นต่อๆ ไป.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 17 มีนาคม 2557