ฟันธงรัฐไม่กล้าของบฯกลางอุ้ม กยศ.
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ฟันธงรัฐไม่กล้าของบฯกลางอุ้ม กยศ.
จากกรณีกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ถูกตัดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 จากที่ตั้งของบฯไป จำนวน 23,500 ล้านบาท แต่ถูกตัด จำนวน 6,700 ล้านบาท ทำให้เหลืองบฯเพียง 16,800 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ในปีการศึกษา 2557 กองทุนไม่สามารถคงเป้าหมายผู้กู้ยืม กยศ.ทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้ จากที่ตั้งเป้าที่จะให้กู้ยืมได้ 865,200 ราย โดยเป็นผู้กู้รายเก่า 635,200 คน และผู้กู้รายใหม่ 230,000 คน แต่เมื่อถูกปรับลดวงเงินงบฯลงจะส่งผลให้ผู้กู้รายเก่าไม่สามารถกู้เงินได้ถึง141,671 ราย ขณะที่จะไม่มีผู้กู้รายใหม่เลย หรือ ผู้กู้รายใหม่เป็นศูนย์ราย และกองทุน กยศ.ต้องปรับลดผู้กู้ยืม แต่ต้องให้ผู้กู้รายเก่าและผู้กู้รายใหม่มีสิทธิ์กู้ยืม จึงปรับลดผู้กู้ยืมเหลือจำนวน 727,396 ราย แบ่งเป็น ผู้กู้รายเก่า 614,896 ราย ผู้กู้รายใหม่ 112,500 ราย ใช้เงิน 30,317 ล้านบาท แต่เงินไม่พอและของบกลางไปแล้ว จำนวน 2,118 ล้านบาท แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ นั้น
ล่าสุด วันที่ 15 ก.พ. ดร.อินทร์ จันทร์เจริญ นายกสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากรัฐบาลไม่มีงบฯให้เด็กกู้ยืมเรียนจริง ๆ จะเกิดผลกระทบกับเด็กจำนวนมากแน่นอน เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่ กู้ กยศ.มีฐานะยากจน แม้ว่าจะมีกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.)ให้กู้ก็ตาม แต่เชื่อว่าเด็กส่วนใหญ่จะไม่กู้ เพราะสาขาวิชาที่กู้ กรอ.ได้มีจำกัด อีกทั้งกองทุนที่ผูกกับรายได้ในอนาคต กำหนดว่าเด็กจบแล้วมีงานทำโดยมีเงินเดือนถึง 16,000บาทจะต้องชำระเงินคืนทันที ก็หมายความว่าจะต้องจ่ายคืนเลย เพราะวันนี้คนที่จบปริญญาตรีขั้นต่ำได้ 15,000 บาทต่อเดือนแล้ว แต่ กยศ.ไม่ได้กำหนดเช่นนั้น แค่กำหนดว่าจบ 2 ปีถึงผ่อนชรำระหนี้คืน
“ที่มีข่าวว่า กยศ.กำลังของบฯกลาง เพื่อมาช่วยทั้งผู้กู้รายเก่าและผู้กู้รายใหม่ให้ได้กู้เงินเรียนนั้น ผมว่าไม่น่าจะมีงบฯกลางมาช่วยได้ และเรื่องนี้ไม่มีทางออก เพราะสถานการณ์การเมืองตอนนี้ไม่ปกติ การจะของบฯกลางก็ไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยต้องเสนอเรื่อง เข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบก่อน และก็จะต้องเสนอเรื่องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาอีก แต่รัฐบาลเป็นแค่รัฐบาลรักษาการจะทำอะไรก็ไม่กล้า เพราะกลัว กกต.จะจับผิด ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่ทำอะไรเลยดีกว่า และสุดท้ายความซวยจะตกที่ตัวเด็กแน่นอน ที่ไม่มีเงินกู้ยืมเรียน”ดร.อินทร์กล่าว
ด้าน ดร.วราภรณ์ สีหนาท รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า จากที่ กยศ.ถูกตัดงบฯ ทำให้ผู้กู้รายใหม่ของ กยศ.อาจจะไม่ได้กู้เลย ขณะนี้ กรอ.มีงบฯเหลือจำนวนมาก เช่น ปีการศึกษา 2557 กองทุน กรอ.มีเป้าหมายให้ผู้ยืม จำนวน 152,551 ราย แบ่งเป็น รายเก่า 31,985 ราย รายใหม่ 120,566 ราย วงเงิน 10,694 ล้านบาท ดังนั้นนักศึกษาใหม่ระดับชั้นปีที่ 1 และระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี สามารถกู้กองทุนกรอ.ได้เลย ทั้งนี้งบประมาณของ กรอ.ในแต่ละปีมีจำนวนมาก แต่นักศึกษาส่วนใหญ่จะไม่กู้ กรอ.เนื่องจาก กรอ.ไม่ได้เปิดให้กู้ยืมได้ในทุกสาขาวิชา แต่จะจำกัดให้กู้ได้เฉพาะในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของประเทศเท่านั้น ขณะที่การกู้ กยศ จะไม่จำกัดสาขาวิชาที่ให้กู้ เพียงแต่ครอบครัวมีฐานยากจนก็กู้ได้ อีกทั้งนักศึกษาที่จะกู้กรอ. ต้องศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) อนุปริญญา และปริญญาตรี เท่านั้น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีความพยายามจะได้มีการเพิ่มสาขาวิชาที่จะให้กู้ กรอ.เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสกู้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุน กรอ.เปิดให้กู้ยืมตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 สมัยพรรคประชาธิปัตย์แต่ให้กู้ได้เพียงปีเดียวก็หยุดไป เนื่องจากเปลี่ยนรัฐบาลซึ่งรัฐบาลใหม่ก็ไม่สานต่อ แต่กลับมาใช้ กยศ.แทน แต่ กรอ.หยุดให้กู้ไปเพียง 1 ปีก็กลับมาทำอีกครั้งเป็นเวลา 2 ปี จากนั้นได้หยุดให้กู้อีก 2 ปี และเพิ่งกลับมาให้กู้อีกครั้งในปี 2555จนถึงปัจจุบันนี้ โดยจำนวนผู้กู้ กรอ.ในแต่ละปีจะมีน้อยมาก จากที่ตั้งเป้าให้กู้ยืมในปีละเป็นแสนคน แต่ปรากฎว่า มีผู้มากู้ยืมเพียงหลักพันถึงหมื่นคนเท่านั้น สำหรับยอดผู้กู้ กรอ.ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบันมีดังนี้ ปีการศึกษา 2549 มีผู้กู้ 315,207 คน ปี 2550 ผู้กู้ 0 คน ปีการศึกษา 2551 ผู้กู้ 7,857 คน ปีการศึกษา 2552 ผู้กู้ 4,955 คน ปีการศึกษา2553 ผู้กู้ 0 คน ปีการศึกษา2554 ผู้กู้ 0 คน ปีการศึกษา2555 ผู้กู้ 16,024 คน และ ปีการศึกษา 2556 ผู้กู้ 12,874 คน
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557