ศธ.เตรียมยกเครื่องระบบการผลิตครู
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ศธ.เตรียมยกเครื่องระบบการผลิตครู
เล็งใช้ “ระบบปิด”-ลุยปรับหลักสูตร ผุดโครงการทุนปั้นแม่พิมพ์มืออาชีพ
ดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมกระทรวงศึกษาธิการได้รับทราบร่างยุทธศาสตร์และมาตรการการผลิตและพัฒนาครู ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และแนวทางแก้ไขปัญหาและการปฏิรูประบบผลิตและพัฒนาครู ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่เสนอให้ปรับระบบการผลิตครูเป็นระบบปิด เพื่อผลิตครูให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการ โดยดูความต้องการในแต่ละสาขาวิชาแล้วผลิตให้ตรงกับความต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผลิตครูเกิน นอกจากนี้ต้องกำหนดผลสัมฤทธิ์ของเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึง ม.ปลาย รวมทั้งอาชีวศึกษา เพื่อผลิตครูให้เหมาะสมสอดคล้อง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถในวิชาที่ขาดแคลนมาเป็นครู และสร้างเครือข่ายการพัฒนาครูระหว่างสถาบันฝ่ายผลิตและสถานศึกษา รวมทั้งเสนอกลไกให้มีคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหารเพื่อการผลิตและพัฒนาครูระดับชาติ
ด้าน รศ.ดร.พินิติ ระตะนานุกุล เลขาธิการ สกศ.กล่าวว่า ข้อเสนอของ สกอ.สอดคล้องกับแนวคิดของคณะอนุกรรมการปฏิรูประบบการผลิตและพัฒนาครู ในคณะกรรมการอำนวยการปฎิรูปการศึกษา ของ ศธ. ที่ต้องการจำกัดจำนวนการผลิตครูให้เท่ากับความต้องการและมีอัตรารองรับ โดยจะมีโครงการการผลิตครูแบบต่อเนื่องระยะยาว 10 ปี มาทดแทนโครงการครูพันธุ์ใหม่ซึ่งสิ้นสุดโครงการไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมาตามมติคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาการขาดแคลนครูที่นโยบายของพรรค การเมืองไม่ส่งผลกระทบให้ต้องทำๆหยุดๆเหมือนที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเสนอต่อบอร์ดปฏิรูปฯ คาดว่าจะสามารถเปิดรับนักเรียนในโครงการรุ่นแรกได้ทันในปีการศึกษา 2558 ซึ่งผู้ที่เข้าโครงการจะได้รับทุนจนจบการศึกษา และจะได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ แต่อาจมีบางส่วนที่เป็นระบบเปิดเพื่อรองรับความต้องการครูของสถานศึกษาสังกัดอื่น นอกจากนี้ จะต้องมีการปรับหลักสูตรการผลิตครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ให้แตกต่างและเหมาะสม โดยต้องดูความคาดหวังต่อตัวนักเรียนในอนาคตว่าต้องการเด็กไทยรูปแบบไหนก็จะผลิตครูออกไปตามนั้น ซึ่งขณะนี้คณะทำงานได้ร่วมกับที่ประชุมคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ปรับหลักสูตร รวมทั้งมีข้อเสนอให้แยกประเภทใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามสาขาที่จบด้วย.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558