สช.ไม่รอปฏิรูปทำหลักสูตรใหม่ เผยทีเด็ดไม่ยึดตำราแบ่งจุดเน้นตามระดับของนร.ใช้ในปีการศึกษา58
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
สช.ไม่รอปฏิรูปทำหลักสูตรใหม่ เผยทีเด็ดไม่ยึดตำราแบ่งจุดเน้นตามระดับของนร.ใช้ในปีการศึกษา58
สช.ไม่สนปรับโครงสร้างตามกระแส มุ่งมั่นปฏิรูปศึกษาด้วยตัวเอง ปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนเอกชน แบ่งจุดเน้นแตกต่าง 3 ระดับชั้น ไม่ยึดตำราเป็นตัวตั้ง คาดเสร็จทันใช้ปีการศึกษา 58 วางมาตรการล่อใจ ถ้าโรงเรียนใด เด็กมีสัมฤทธิผลการเรียนดีขึ้นจะได้เงินอุดหนุนรายหัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มอบหมายให้อนุกรรมการด้านวิชาการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เร่งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าเมื่อปรับหลักสูตรและเน้นการเรียนการสอนในวิชาดังกล่าวแล้ว จะสามารถแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ได้เร็วยิ่งขึ้น โดยจะเร่งปรับปรุงให้หลักสูตรทันใช้ในปีการศึกษา 2558 ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจในคุณภาพ และส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนเพิ่มมากขึ้น
นายบัณฑิตย์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นระดับชั้นประถมศึกษา 1-3 จะเน้นส่งเสริมการเรียนในวิชาภาษาไทย อังกฤษ คณิตศาสตร์ และสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็กในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะแตกต่างกับเด็กที่เรียนหลักสูตรปกติที่ไม่เน้นเรื่องดังกล่าว โดยเด็กจะต้องเรียนทั้ง 3 วิชา ประมาณ 80-90% ของเวลาเรียนทั้งหมด ส่วนเด็กที่เรียนชั้น ป.4-6 จะให้โรงเรียนออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับบริบทโรงเรียนและท้องถิ่น กระตุ้นให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ไม่สอนโดยยึดแบบเรียนเป็นตัวตั้ง เพราะเป็นการจำกัดความคิดของเด็ก ขณะที่ระดับมัธยมศึกษาจะเน้นให้เด็กคิดวิเคราะห์ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง จะไม่ยึดตำราเป็นตัวตั้ง ซึ่งที่ผ่านมามีหลายโรงเรียนจัดการเรียนการสอนในรูปแบบดังกล่าว และพบว่าเด็กมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้โรงเรียนเอกชนสามารถจัดทำหลักสูตรเองได้ตามมาตร 13 (3) ของ พ.ร.บ.การศึกษาเอกชน ที่เปิดกว้าง สช.สามารถกำหนดมาตรฐานคุณภาพการศึกษาและหลักสูตรของ สช.เองได้ เช่นเดียวกับหลักสูตรโรงเรียนนานาชาติ
“สช.คงไม่เน้นเรื่องการปรับโครงสร้างองค์กรเช่นหน่วยงานอื่น แต่จะเดินหน้าปรับปรุงคุณภาพหลักสูตรและคุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงคุณภาพครูให้เข้มข้น โดยต่อไปจะมีตัวชี้วัด หากโรงเรียนใดสามารถจัดการเรียนการสอนได้มาตรฐานและมีคุณภาพ เด็กมีผลสัมฤทธิ์ในการเรียนดีขึ้นจะได้รับการท็อปอัพเงินอุดหนุนรายหัวมากกว่าโรงเรียนอื่น ถ้าโรงเรียนใดไม่พัฒนาก็จะได้เท่าเดิม ซึ่งเรื่องนี้ สช.สามารถดำเนินการได้โดยออกเป็นประกาศ กช. เรื่องมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนเอกชน เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ” เลขาธิการ สช.กล่าว.
ที่มาของข่าว : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 15 มกราคม 2558