LASTEST NEWS

06 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 06 ต.ค. 2567โรงเรียนบางละมุง รับสมัครครูอัตราจ้าง 7 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 18 ตุลาคม 2567 05 ต.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ (ต่อ) 05 ต.ค. 2567วิทยาลัยเทคนิคเพชรบูรณ์ รับสมัครครูอัตราจ้าง 3 อัตรา และเจ้าหน้าที่ธุรการ 2 อัตรา ตั้งแต่บัดนี้ - 15 ตุลาคม 2567  04 ต.ค. 2567โรงเรียนวัดบวรนิเวศ รับสมัครพนักงานขับรถ จำนวน 1 อัตรา เงินเดือน 12,000.-บาท มีประกันสังคม และที่พัก ตั้งแต่บัดนี้ - 24 ตุลาคม 2567 04 ต.ค. 2567โรงเรียนวัดบวรนิเวศ รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท มีประกันสังคม และที่พักในโรงเรียน ตั้งแต่บัดนี้ - 21 ตุลาคม 2567 04 ต.ค. 2567ยินดีด้วยครับ!! สอศ.เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 1 จำนวน 415 อัตรา - รายงานตัว 10-11 ต.ค.2567 03 ต.ค. 2567โรงเรียนนาน้อย รับสมัครครูผู้สอน 2 อัตรา เงินเดือน 9,500.- บาท ตั้งแต่วันที่ 7 - 13 ตุลาคม 2567 03 ต.ค. 2567ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2567 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 02 ต.ค. 2567สอศ.ประกาศผลสอบครูผู้ช่วย เช็กรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ขึ้นบัญชีบรรจุครูผู้ช่วย อาชีวะ ปี 2567 ได้ที่นี่

เร่งปรับหลักสูตร 'สุขศึกษา พลศึกษา คหกรรม' เน้นทักษะชีวิต

  • 08 เม.ย. 2557 เวลา 10:18 น.
  • 2,253
เร่งปรับหลักสูตร 'สุขศึกษา พลศึกษา คหกรรม' เน้นทักษะชีวิต

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

หลายภาคส่วนระดมแนวคิด จัดการเรียนรู้ทักษะชีวิต ทักษะสุขภาพ เพื่อการดำรงชีวิตและโลกของงาน หวังให้เยาวชนมีสุขภาวะที่ดี จิตใจดี เข้าใจตนเอง อยู่กับผู้อื่นได้...
 
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว สสส.จัดประชุมวิพากษ์แนวคิด หลักการจัดการเรียนรู้ทักษะชีวิต ทักษะสุขภาพ เพื่อการดำรงชีวิตและโลกของงาน ภายใต้โครงการพัฒนาคู่มือการจัดการเรียนรู้ ทักษะชีวิต และโลกการทำงาน ที่เน้นการมีสุขภาวะที่ดีของนักเรียน เพื่อเน้นให้เห็นความสำคัญของการเรียนวิชาสุขศึกษา พลศึกษา และคหกรรม ในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต ที่ควรกำหนดเป้าหมายของหลักสูตรและในการจัดการเรียนการสอนให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้เรียนมีสุขภาวะที่ดี จิตใจดี เข้าใจตนเอง อยู่กับผู้อื่นได้ ดูแลสิ่งแวดล้อม มีอาชีพที่ดี เรียนรู้สุขภาพตลอดชีวิต อันจะนำไปสู่การเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ณ โรงแรมหลุยส์ แทเวิร์น กรุงเทพฯ
 
ผศ.ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ หัวหน้าโครงการพัฒนาคู่มือการจัดการเรียนรู้ฯ กล่าวว่า การพัฒนาคู่มือการจัดการเรียนรู้ทักษะชีวิต ทักษะสุขภาพในการดำรงชีวิตและโลกของงาน ที่เน้นการมีสุขภาวะที่ดีของนักเรียน มีโจทย์ว่า "ปฏิรูปหลักสูตร" ครูต้องสอนน้อยลงเรียนรู้ให้มาก ฟังเด็กมากขึ้น สอนให้เด็กคิดเป็น เพราะการปฏิรูปหลักสูตรครั้งนี้ "เด็ก" ต้องได้ประโยชน์สูงสุด แต่ปัญหาคือครูไทยกับการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน จึงต้องมีสิ่งสนับสนุนให้ครูที่ถือว่าเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ
1. การยกร่างหลักสูตรที่ชัดเจน ประชาพิจารณ์กับครู นักการศึกษา และประชาสัมพันธ์การมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง
2. มีคู่มือครูอธิบายอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
3. มีพี่เลี้ยง (Mentors) คอยให้คำแนะนำและร่วมลงมือปฏิบัติการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพื่อให้เห็นผลการปฏิรูปที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จริง โดยได้นำกรณีศึกษาจากประเทศนิวซีแลนด์ ที่เน้นหลักสูตรเรื่องความรู้ ทักษะ แรงจูงใจของบุคคลในการตัดสินใจเลือกวิถีชีวิต จัดการความสัมพันธ์กับผู้อื่น จัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดสุขภาพดีอย่างมีความเชื่อมั่น และมีมุมมองทางบวกต่อชีวิตและสังคม ซึ่งแนวทางจัดการเรียนรู้ได้บูรณาการใน 3 วิชา คือวิชาสุขศึกษา พลศึกษา และคหกรรม ที่มีเป้าหมายให้เด็กอยู่อย่างแข็งแรงใช้ชีวิตมีความสุข
 
"การปฏิรูปหลักสูตรได้ขอความร่วมมือผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาร่วมกันปรับเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มสาระที่ 3 จาก 6 กลุ่มสาระ คือ เรื่องการดำรงชีวิตและโลกของงาน ดังนั้นโครงการนี้จึงต้องการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ด้านสุขภาพครอบคลุมตั้งแต่การจัดประเด็นการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ และจัดทำเป็นคู่มือครู ซึ่งจะเน้นให้ครูทำบทบาทเป็นผู้สร้างทักษะนักเรียน สร้างโอกาสการเรียนรู้ มากกว่าที่จะสอนเนื้อหา แต่การสอนต้องมีโจทย์ที่ชัด สร้างความเชื่อมั่น มีการแบ่งสัดส่วนที่ชัดขึ้น เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะส่งเสริมการพัฒนาด้านสุขภาพและภาวะโภชนาการให้เด็กอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย โดยมีเป้าหมายให้เด็กเรียนจบมีงานทำ มีทักษะชีวิต ทักษะเบื้องต้นที่พร้อมในการเรียนรู้สังคมและการทำงาน" ผศ.ดร.ชะนวนทอง กล่าว
 
ด้าน นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การปรับหลักสูตรได้ประโยชน์ แต่ต้องเน้นสาระและต้องอธิบายให้ได้ว่ามีเป้าหมายอย่างไร สาระการเรียนรู้คืออะไร ซึ่งต้องทำให้รู้จักเรื่องสุขภาวะชีวิตของตนเองและผู้อื่นและเข้าใจเรื่องความสำคัญในการดำรงชีวิต ที่ต้องมีการสอนให้เผชิญปัญหาทางลบ เรียนรู้เพื่อนที่เข้ามาในชีวิต ฉะนั้นครอบครัวต้องสอนลูกในด้านบวก คือเน้นให้รู้จักคุณค่า มีความภาคภูมิใจ เห็นตัวตนของตัวเอง ซึ่งกระบวนการที่จะทำให้เกิดเรื่องเหล่านี้สร้างได้ไม่ยาก อยู่ที่พื้นฐานของครอบครัวที่เข้มแข็ง เพราะปัญหาสังคมที่เข้ามาในชีวิตส่วนใหญ่มาในรูปแบบโฆษณาแฝง ปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหาเรื่องเด็กติดเกม ติดอินเทอร์เน็ต สูบบุหรี่ ฉะนั้นเมื่อเด็กมาจากครอบครัวที่ต่างกันเมื่อมาเจอกันก็ต้องการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่หากเด็กคนไหนมาจากครอบครัวที่เข้มแข็งสอนให้รู้จักเรียนรู้ผิดถูก มีทักษะชีวิตเด็กเหล่านี้ก็จะได้เปรียบเด็กที่ไม่มีพื้นฐานทักษะชีวิต ดังนั้น อย่าลืมว่าโรงเรียนไม่ได้สอนให้มีแค่การเรียนรู้ ต้องสอนให้รู้จักการใช้ชีวิตด้วย แต่ก็ไม่สามารถนำทุกอย่างเข้าไปในหลักสูตรได้ จึงต้องจัดให้มีวิชาเลือก หรือจัดเป็นหลักสูตรพื้นฐานในวิชาเรียน
 
ขณะที่นางสุกัญญา นามบรรจง ผู้เชี่ยวชาญ สพฐ. กล่าวว่า การปรับหลักสูตรของโครงการเป็นเรื่องดีที่เน้นกลุ่มสาระที่ 3 เพราะจุดเน้นหลักสูตรใหม่เป็นการบูรณาการสุขศึกษา พลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี หรือ คหกรรม เพราะเรื่องสุขภาพเกี่ยวข้องกับโลกของงาน เนื่องจากเด็กปัจจุบันเรียนจบมหาวิทยาลัยออกมาตกงาน หรือไม่มีทักษะในการทำงานที่เพียงพอ ขาดทักษะชีวิตเนื่องจากไม่ได้ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ฉะนั้น หลักสูตรใหม่จึงต้องเน้นปลูกฝังในเด็กปฐมวัยเพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ชีวิต เมื่อเติบโตขึ้นก็จะเป็นผู้ที่มีทักษะชีวิตดีเยี่ยม เพราะการมีสุขภาวะที่ดีต้องมีกายแข็งแรง จิตใจดี อยู่ในสังคมร่วมกับคนอื่นได้ ส่วนเรื่องการมีคุณธรรม การเป็นพลเมืองดีกับกลายเป็นเหมือนประสบการณ์การเรียนรู้ที่ทุกวิชาต้องสร้างให้เกิด ฉะนั้นกลุ่มสาระที่ 3 ต้องมี ไม่เช่นนั้นการเป็นพลเมืองดีในด้านสุขภาพไม่อยากให้ดูแลแค่ตัวเองแต่ให้ดูแลคนอื่นด้วย
 
"การจะสอนทักษะชีวิต ต้องมีเนื้อหาควบคู่ไปด้วย แต่ไม่ต้องเน้นสอนตามหลักสูตร เพียงแต่ให้คิดหากิจกรรมสอนสอดแทรกเพื่อให้สมดุล เพราะการดำรงชีวิตและโลกของงาน เมื่อมีทักษะเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม ฉะนั้นหลักสูตรควรจะมีคอนเซปต์ให้ครูผู้สอน แต่ให้ครูคิดหากิจกรรมประกอบการสอนเพื่อให้เด็กเห็นความสำคัญ ซึ่งทุกวิชาที่เด็กเรียนไม่ได้หายไป เพียงแต่ครูต้องเน้นสอนให้เด็กปฏิบัติ ส่วนวิชาแนะแนวเป็นกระบวนการที่จะเข้ามาให้เด็กค้นพบตัวเอง เน้นย้ำให้เด็กรู้จักตนเอง รู้จักคนอื่น อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข โดยการปรับกระบวนการเรียนการสอนตามหลักสูตรเหลือ 6 กลุ่มสาระ คือ 1.ภาษาและวรรณกรรม 2.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คณิตศาสตร์ 3.การดำรงชีวิตและโลกของงาน 4.ทักษะสื่อ และการสื่อสาร 5.สังคมและความเป็นมนุษย์ 6.อาเซียน ภูมิภาค และโลก จาก 8 กลุ่มสาระ และการนำจุดเด่นของหลักสูตรประเทศต่างๆ รวมถึงการนำทักษะในศตวรรษที่ 21 ที่เน้นเรื่องกระบวนการบูรณาการการทำงานมาใส่ในหลักสูตรเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม" นางสุกัญญา กล่าว.
 
 
  • 08 เม.ย. 2557 เวลา 10:18 น.
  • 2,253

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : เร่งปรับหลักสูตร 'สุขศึกษา พลศึกษา คหกรรม' เน้นทักษะชีวิต

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^