LASTEST NEWS

29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 3 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 26 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ชลบุรี เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ชลบุรี เขต 3 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.สงขลา เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.สงขลา เขต 1 29 มี.ค. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.พิจิตร เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.พิจิตร เขต 2 29 มี.ค. 2567สพป.เพชรบุรี เขต 1 รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 5 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567 29 มี.ค. 2567สพม.เพชรบุรี รับสมัครสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 จำนวน 7 อัตรา ตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.2567

ผลสแกนนักเรียน ม.3 เมินต่อสายอาชีพ

  • 06 ม.ค. 2557 เวลา 09:05 น.
  • 1,670
ผลสแกนนักเรียน ม.3 เมินต่อสายอาชีพ

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ผลสแกนนักเรียน ม.3 เมินต่อสายอาชีพ
 
“ชัยพฤกษ์” ถอดใจยอดอาชีวะหลุดเป้า nเบนเข็มเจาะวัยทำงานแทน
 
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ในปีการศึกษา 2557 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เตรียมเจาะกลุ่มเป้าหมายคนทำงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพราะหลัง สอศ.เริ่มรณรงค์ให้เด็กหันมาเรียนต่อสายอาชีพมากขึ้นตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องปรับสัดส่วนการเรียนต่อชั้น ม.ปลายสายสามัญและสายอาชีพเป็น 51:49 นั้น พบว่าผลของการรณรงค์ดึงดูดให้คนวัยทำงานมาสมัครเรียนต่อสายอาชีพจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มนักเรียนที่จบ ม.ต้นยังมีแนวโน้มเปลี่ยนใจมาเรียนต่อสายอาชีพไม่มากเท่าที่ตั้งเป้าไว้ โดยตั้งเป้าว่าต้องเพิ่มสัดส่วนเรียนต่อสายอาชีพในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เป็น 45% จากปัจจุบัน 36% หมายถึงว่าต้องเพิ่มขึ้นจากยอดผู้สมัครในปีที่ผ่านมาจำนวน 30,000 คนอย่างไรก็ตาม เท่าที่ตรวจสอบดู พบว่ายากมากที่จะทำได้ตามเป้าดังกล่าว โดย สอศ.ให้วิทยาลัยไปร่วมมือกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสแกนสอบถามนักเรียนที่กำลังจะจบม.ต้น พบว่ามีเด็กที่จะเปลี่ยนมาเลือกเรียนต่อสายอาชีพไม่ถึงครึ่งของเป้าหมาย 30,000 คน แม้วิทยาลัยทั่วประเทศจะยังไม่รายงานผลสแกนมาครบทุกแห่ง แต่เชื่อว่าแนวโน้มในปีการศึกษา 2557 จะเพิ่มยอดผู้เรียนต่อสายอาชีพได้ไม่มากต้องใช้เวลาสื่อสารทำความเข้าใจอีก 2-3 ปี ใช้ระบบแนะแนวเข้ามาช่วยจึงจะสามารถเพิ่มยอดผู้เรียนต่อสายอาชีพได้ใกล้เคียงเป้าหมาย
 
เลขาธิการ กอศ. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาจำนวนคนทำงานที่เรียนต่อกับอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้นพอสมควร โดยเฉพาะวิทยาลัยเกษตร เป็นหัวหอกที่มีคนทำงานมาสมัครเรียนต่อจำนวนมาก สาเหตุที่คนทำงานมาเรียนต่อเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลพ่วงจากการที่ สอศ.ไปจับมือกลับกลุ่มอาชีพต่างๆ ทำเรื่องกรอบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลให้แรงงานในกลุ่มอาชีพต่างๆ สามารถปรับเพิ่มเงินเดือนได้ตามความรู้ ฝีมือ ประสบการณ์ เพราะฉะนั้น คนทำงานจึงสนใจมาเรียนต่อเพื่อปรับวุฒิการศึกษาให้สูงขึ้น
 
เพราะฉะนั้นในปีการศึกษา 2557 สอศ.จะหันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มคนทำงานมากขึ้น และอันที่จริงแล้ว การยกระดับการศึกษาให้แรงงานไทยก็ถือเป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของสอศ.อยู่แล้ว โดย สอศ.เตรียมทำแผนเพื่อขยายการจัดการศึกษาให้กลุ่มเป้าหมายใหม่นี้ แต่โดยหลักๆ น่าจะเน้นการจัดการศึกษาให้ลักษณะทวิภาคีร่วมกับสถานประกอบการ ขณะเดียวกันก็จะเน้นการส่งเสริมให้ผู้เรียนจบออกไปเป็นผู้ประกอบการเองมากขึ้นด้วย.
 
  • 06 ม.ค. 2557 เวลา 09:05 น.
  • 1,670

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ผลสแกนนักเรียน ม.3 เมินต่อสายอาชีพ

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^