LASTEST NEWS

19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครสวรรค์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครสวรรค์ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 2 (รอบที่ 1) สพป.นราธิวาส เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นราธิวาส เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.น่าน เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.น่าน เขต 1 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.นครพนม - ผลย้ายครู 2567 สพม.นครพนม 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.ราชบุรี เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ราชบุรี เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 3 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 3 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.เชียงใหม่ เขต 2 - ผลย้ายครู 2567 สพป.เชียงใหม่ เขต 2 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพป.นครสวรรค์ เขต 1 - ผลย้ายครู 2567 สพป.นครสวรรค์ เขต 1

เบรกศธ.รื้อหลักสูตรพื้นฐานชี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอาจก่อปัญหาใหม่

  • 28 ต.ค. 2556 เวลา 13:01 น.
  • 2,880
เบรกศธ.รื้อหลักสูตรพื้นฐานชี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอาจก่อปัญหาใหม่

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เบรกศธ.รื้อหลักสูตรพื้นฐานชี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอาจก่อปัญหาใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 29 ต.ค. 2556 (กรอบบ่าย)
 
        ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินด้านการศึกษา อดีต ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า จากที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่นั้น ตนเห็นว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 และ 2550 มีข้อดีอยู่แล้ว คือ เป็นหลักสูตรที่กว้าง ครอบคลุมและปรับได้ง่าย แต่ก็มีข้อเสียคือหากสถานศึกษาไม่มีครูเก่งจะปรับหลักสูตรไปใช้ไม่ได้ ต้องไปลอกจากสถานศึกษาอื่น ทำให้ไม่ตรงกับบริบทของโรงเรียนตนเอง เนื้อหาที่ระบุในหลักสูตรแกนกลางก็ไม่มีความชัดเจน อีกทั้งมาตรฐานการเรียนรู้ที่ไม่กระชับ และที่เป็นจุดอ่อนอย่างมาก คือ ไม่มีการระบุว่าเมื่อผู้เรียนจบแต่ละช่วงชั้นแล้วรู้อะไรเท่าไร ทำอะไรได้เท่าไร หรือเป็นคนดีแบบใด และขาดความชัดเจนในการพัฒนาคน 4 ด้าน คือ ร่างกาย จิตใจ สังคมและสมอง นอกจากนี้ยังพบว่าครูไม่ได้นำหลักสูตรไปใช้แต่ใช้ที่สำนักพิมพ์เอกชนจัดให้ ตั้งแต่แผนการสอน แบบเรียน สื่อ และเครื่องมือวัดผล ถ้าครูไม่นำหลักสูตรไปใช้ก็เปล่าประโยชน์
 
          ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทุกคนรู้ว่าการปรับหลักสูตรใหม่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาคุณภาพการศึกษา ดังนั้นตนมีข้อเสนอซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำในเวลานี้ คือ การทำให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เล็กลง เพื่อทำหน้าที่เฉพาะนโยบาย พิจารณาผลประเมินเพื่อการปรับปรุงคุณภาพ  ช่วยเหลือโรงเรียนด้านกำลังคน ปล่อยโรงเรียนให้เป็นนิติบุคคลทุกแห่งโดยให้สำนักงบประมาณจ่ายงบฯตรงไปที่โรงเรียน ให้เวลาผู้บริหารโรงเรียนและครูพัฒนาการศึกษา 2-3 ปี ถ้าไม่ดีขึ้นต้องย้ายผู้บริหารโรงเรียน ที่สำคัญ ศธ.ต้องไม่สั่งการที่ไร้สาระให้โรงเรียนทำ ต้องกำชับให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนให้ครบตามประกาศ  ครูต้องอยู่ในห้องเรียนไม่ต้องออกไปรับการอบรมข้างนอกยกเว้นปิดภาคเรียน ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาต้องช่วยเหลือด้านวิชาการ ไม่สั่งการให้ครูต้องออกจากห้องเรียน ต้องมีบุคลากรสายสนับสนุนเพื่อให้ครูไม่ต้องทำธุรการมากนัก ห้ามกระทรวงอื่นหรือหน่วยงานอื่นมาใช้ครูและนักเรียนทำกิจกรรมที่ทำให้นักเรียนเสียเวลาเรียน และการพิจารณาผลงานครูควรใช้คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต และยกเลิกการประเมินครูด้วยการทำผลงานทางวิชาการ
 
          "รัฐบาลไม่ควรดันทุรังทำหลักสูตรใหม่ ควรใจเย็น ๆ หันมาแก้ไขปัญหาการศึกษาของชาติ ซึ่งต้องใช้เวลา มิฉะนั้นจะกลายเป็นการก่อปัญหาใหม่ตามมา แต่ถ้าจะทำหลักสูตรใหม่ก็ควรเตรียมความพร้อมทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้ดีก่อน" ศ.ดร.อุทุมพร กล่าว.
 
 
  • 28 ต.ค. 2556 เวลา 13:01 น.
  • 2,880

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : เบรกศธ.รื้อหลักสูตรพื้นฐานชี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอาจก่อปัญหาใหม่

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^