LASTEST NEWS

18 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 18 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 18 เม.ย. 2567(( ประกาศแล้ว )) รายชื่อผู้สอบผ่าน ภาค ก และ ข การสอบบรรจุรับราชการครูฯ ตำแหน่งบุคลากร 38 ค.(2) สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2567 เช็กผลสอบ 38 ค. สพฐ. ได้ที่นี่ 18 เม.ย. 2567อย่างเป็นทางการ! กำหนดสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัดสพฐ. ปี พ.ศ.2567 ประกาศรับสมัครภายใน 1 พ.ค. 2567 - รับสมัคร 8-14 พ.ค.2567 18 เม.ย. 2567กรุงเทพมหานคร เปิดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ (ทุนเอราวัณ) 84 อัตรา สมัคร 1 พฤษภาคม 2567 - 14 มิถุนายน 2567 18 เม.ย. 2567อย่างเป็นทางการ !! กทม.เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 592 อัตรา (สำรอง 125 อัตรา) - รายงานตัว 29-30 เม.ย.2567 18 เม.ย. 2567สพป.ยโสธร เขต 1 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 18 เม.ย. 2567สพป.อุดรธานี เขต 2 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567 18 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 4 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือกฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ ปี พ.ศ.2567  18 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 2) สพป.ขอนแก่น เขต 5 - ผลย้ายครู 2567 สพป.ขอนแก่น เขต 5

ความล้มเหลวของการศึกษากับปัญหานานัปการ

  • 06 ต.ค. 2556 เวลา 09:22 น.
  • 2,452
ความล้มเหลวของการศึกษากับปัญหานานัปการ

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ความล้มเหลวของการศึกษากับปัญหานานัปการ
 
ในอดีตเมื่อครั้งกึ่งพุทธกาลหรือปี พ.ศ. 2500 นั้น   การศึกษาไทยเป็นที่ยอมรับของประเทศที่เจริญแล้วในซีกโลกตะวันตก เพราะมีคุณภาพและมีมาตรฐานการศึกษาสูง ไม่ว่าจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษหรือวิชาอื่นๆ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8  (เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบัน) สามารถทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศหรือบริษัทธุรกิจข้ามชาติขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งผู้ที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 แล้วเมื่อไปศึกษาต่อยังต่างประเทศก็มีผลการเรียนดีเป็นที่ยอมรับของสถาบันการศึกษาต่างๆ แต่ต่อมาภายหลังการศึกษาไทยมีคุณภาพลดลงและมีมาตรฐานการศึกษาที่ตกต่ำลงเรื่อยมา
 
ผลการจัดอันดับการศึกษาขององค์กรระหว่างประเทศซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของทั่วโลก คือ  World Economics Forum – WEF เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2556  ได้จัดอันดับการศึกษาของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปรากฏว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 142  และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซียนด้วยกัน ประเทศไทยก็ติดอันดับรั้งท้ายอยู่ในลำดับที่ 8  (ไม่นับรวมลาวและเมียนมาร์) ผลจากการจัดอันดับการศึกษาในครั้งนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนแก่กระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐซึ่งมีบทบาทและหน้าที่ในการบริหารจัดการการศึกษาของชาติที่จะต้องมีความรับผิดชอบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
 
ก่อนหน้านี้สังคมไทยเคยตั้งคำถามถึงคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของชาติกับกระทรวงศึกษาธิการเสมอมา แต่เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงจากกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ก็ไม่ค่อยสู้จะเข้าใจกระไรนัก เพราะผู้บริหารกระทรวงมักแสดงภูมิความรู้ด้วยการใช้ศัพท์แสงทางวิชาการเป็นภาษาต่างประเทศตามความเชื่อของตนที่ได้รับอิทธิพลจากแนวความคิดของนักการศึกษาตะวันตกจนคนในสังคมส่วนใหญ่ฟังไม่รู้เรื่อง
 
การปฏิรูปการศึกษาที่ดำเนินการกันมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วนั้นโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับและพัฒนาการศึกษาของชาติให้มีคุณภาพและมาตรฐาน แต่ก็ไม่บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย เนื่องจากเป็นเพียงแค่การปฏิรูปในเชิงปริมาณหาใช่การปฏิรูปในเชิงคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เน้นแต่การก่อสร้างอาคารเรียนต่างๆ ละเลยการพัฒนาคุณภาพครูและกระบวนการการเรียนการสอน ฯลฯ   เป็นที่น่าเสียดายที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาของชาติโดยทุ่มงบประมาณแผ่นดินให้กับกระทรวงศึกษาธิการมากกว่าทุกกระทรวงโดยใช้งบประมาณสูงถึง 400,000 ล้านบาทเศษต่อปี  ซึ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งในประชาคมอาเซียนและเป็นลำดับต้นๆ ของโลก  เมื่อเปรียบเทียบงบประมาณการลงทุนอย่างมากมายกับการศึกษาของชาติกับผลลัพธ์ที่ได้รับจากการจัดอันดับการศึกษาของ WEF  นับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เพราะใช้งบประมาณมากแต่ความสัมฤทธิ์ผลทางการศึกษามีน้อย ถือได้ว่าเป็นความล้มเหลวของการศึกษาที่ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ความเจริญก้าวหน้าเท่าที่ควรจะเป็น กระทรวงศึกษาธิการจึงต้องย้อนกลับไปสำรวจและพิจารณาถึงปัญหาน้อยใหญ่นานัปการอย่างมีเหตุผลและมีความเหมาะสมบนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง
 
ปัญหาหลักซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการการเรียนรู้ทางการศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและเร่งด่วน คือ การยกเลิกวิธีการสอนภาษาไทยให้เด็กฝึกอ่านเป็นคำๆ แบบภาษาอังกฤษ แต่ต้องหันกลับมาใช้วิธีการเดิมตามรูปแบบการสอนภาษาไทยในอดีตด้วยการฝึกสะกดคำอ่านตามพยัญชนะและสระ รวมถึงการฝึกผันวรรณยุกต์ มิเช่นนั้นเด็กจะอ่านหนังสือไม่ออก หรือแม้ว่าอ่านออกแต่ก็อ่านแบบกระท่อนกระแท่น ส่งผลให้เด็กไม่ชอบอ่านหนังสือเพราะอ่านไม่ออกหรืออ่านได้บ้างไม่ได้บ้าง อย่าลืมว่าภาษาไทยมีความสำคัญเปรียบเสมือนกุญแจในการไขความรู้จากวิชาต่างๆ
 
หากจะปฏิรูปการศึกษาให้สัมฤทธิ์ผลทางการศึกษาอย่างแท้จริง กระทรวงศึกษาธิการจะต้องแก้ไขตั้งแต่จุดเริ่มต้น คือ จะต้องปฏิรูปกระบวนการการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนและนักเรียนชั้นประถมศึกษาเป็นเบื้องต้นเสียก่อน ส่วนวิชาความรู้อื่นๆ ก็จัดให้มีสาระการเรียนรู้อย่างเหมาะสมและทันต่อสภาวการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การศึกษาของชาติจึงจะมีคุณภาพและมาตรฐานที่จะนำพาคนในชาติไปสู่การเป็นผู้มีการศึกษาในอนาคต
 
 
ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล
 
 
  • 06 ต.ค. 2556 เวลา 09:22 น.
  • 2,452

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ความล้มเหลวของการศึกษากับปัญหานานัปการ

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^