LASTEST NEWS

25 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 25 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 25 เม.ย. 2567สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.เพชรบูรณ์ เขต 2 25 เม.ย. 2567สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 25 เม.ย. 2567สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพม.สุราษฎร์ธานี ชุมพร 25 เม.ย. 2567สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 25 เม.ย. 2567สพป.ยะลา เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.ยะลา เขต 1 25 เม.ย. 2567สพป.นครราชสีมา เขต 7 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.นครราชสีมา เขต 7 25 เม.ย. 2567สพป.นนทบุรี เขต 1 ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 รอบที่ 1 (ครั้งที่ 1) - ผลย้ายครู 2567 สพป.นนทบุรี เขต 1

'สุรินทร์' แนะ 'รัฐบาล' เร่งปฏิรูปการศึกษาไทยก่อนสายเกินกู้กลับ

  • 10 ก.ย. 2556 เวลา 07:08 น.
  • 2,437
'สุรินทร์' แนะ 'รัฐบาล' เร่งปฏิรูปการศึกษาไทยก่อนสายเกินกู้กลับ

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

'สุรินทร์'แนะรัฐเร่งปฏิรูปการศึกษา
'สุรินทร์' แนะ 'รัฐบาล' เร่งปฏิรูปการศึกษาไทยก่อนสายเกินกู้กลับ
 
                          9 ก.ย.56 นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนและประธานสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีองค์กร เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม (WEF) ได้เสนอรายงานผลการศึกษา ความสามารถในการแข่งขันโลก (Global Competitiveness Report 2013-2014) โดยชี้ว่าคุณภาพการศึกษาทั้งระดับพื้นฐานมัธยมและอุดมศึกษาของไทยอยู่ในระดับรั้งท้ายหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้คำว่า “คุณภาพต่ำอย่างผิดปกติ” ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลยิ่ง เพราะมันสะท้อนถึงความไม่เชื่อถือยอมรับในคุณภาพการศึกษาไทยโดยรวม และจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นในประเทศด้านอื่นๆในอนาคตต้องถูกกระทบกระเทือนไปด้วย”
                          สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งอีกประการหนึ่งคือการที่รายงานฉบับนี้กล่าวว่า “ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ความไม่ต่อเนื่องทางด้านนโยบาย ระบบราชการที่ซับซ้อนไร้ประสิทธิภาพ การทุจริตคอรั่ปชั้นที่แพร่หลาย ระบบพรรคพวกเส้นสาย” ทำให้ความเชื่อมั่นในสถาบันสาธารณะของไทยต่ำลงมีผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
                          ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า ทางออกสำหรับประเทศไทยคือการรีบเร่งปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งในด้านการจัดระบบองค์กร คุณภาพการเรียนการสอนและทรัพยากรด้านสื่อ ห้องสมุดและแล็บทดลองต้องครบครัน
                          “เราใช้งบประมาณด้านการศึกษาปีละกว่า 5 แสนล้านบาท (งบประมาณ 2556) คิดเป็นกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณแผ่นดิน มีบุคลากรเฉพาะในกระทรวงศึกษาธิการเกือบ 5 แสนคน มีอาจารย์ระดับอุดมศึกษา 56,180 คน ถึงกระนั้นรายงานของ WEF ยังกล่าวว่าการศึกษาของไทยมีคุณภาพต่ำอย่างผิดปกติ อย่างนี้ต้องรีบเร่งแก้ไขแน่” ดร.สุรินทร์ กล่าว
                          อีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลต้องเร่งรีบให้ความสำคัญคือการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัย และนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว แต่กลับได้รับงบประมาณน้อยมากเพียง 19,636 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.8 ของงบประมาณแผ่นดิน หรือ 300 บาทต่อหัวประชากรประเทศ
                          รายงานของ  WEF กล่าวว่า “ตัวถ่วงความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรมของประเทศไทยคือ การที่รัฐบาลลงทุนในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง น้อยมากๆ (เมื่อเทียบกับประเทศอื่น) อีกทั้งจำนวนสิทธิบัตรที่นักวิทยาศาตร์และนักประดิษฐ์ไทยจดทะเบียนทั้งในและนอกประเทศก็อยู่ในอันดับท้ายๆของโลก ประกอบกับนักธุรกิจและนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการพัฒนานวัตกรรมองค์กรธุรกิจ และสถาบันอุดมศึกษาของไทยในระดับต่ำมาก” ดร.สุรินทร์ กล่าว
                          มีบทวิเคราะห์หลายฉบับที่ตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศในอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย จำเป็นต้องยกระดับเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม กระบวนการผลิตและการบริการจากการใช้แรงงานถูก เข้าสู่การใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มิเช่นนั้นจะติดอยู่ในบ่วงที่เรียกว่า “กับดักรายได้ปานกลาง” (Middle Income Trap) จะไม่มีวันเข้าสู่กลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง และยังมีผลสำรวจทักษะความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยหลายต่อหลายครั้งพบว่ายังรั้งท้ายด้านภาษาซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการแข่งขันบนเวทีภูมิภาคอาเซียนและในตลาดโลก เช่นในปี 2555 ดัชนีวัดระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษของ Education First (EF English Proficiency Index- EPI) ของคนไทยอยู่ในลำดับ 53 ของ 54 ประเทศที่ได้รับการสำรวจ ดีกว่าประเทศลิเบียซึ่งอยู่ในภาวะสงครามการเมือง
                          “อันนี้ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งเพราะกฎบัตรอาเซียนกำหนดว่าภาษาอังกฤษคือภาษาใช้งานของอาเซียน เอกสารทุกชิ้น การประชุมทุกครั้ง การต่อรองทุกเรื่อง จะต้องใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น และเราจะสื่อกับใครด้วยภาษาอะไรในประชาคมอาเซียน”
                          ดร.สุรินทร์ กล่าวต่อว่า เยาวชนไทยมีเครื่องมือไอทีและโทรศัพท์มือถือกันเกือบทุกคน เพียงแต่ว่าไม่ได้ใช้ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มพูนปัญญาจากขุมความรู้ไซเบอร์ เอาแต่ใช้เพื่อความสนุก เล่นเกมส์ และติดตามข่าวบันเทิงมากกว่า จึงมีสถิติออกมาว่าคนไทยใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูลน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนเครื่องมือไอทีที่มีอยู่ ทักษะภาษาอังกฤษที่สูงขึ้นในทุกประเทศได้นำไปสู่การยกระดับคุณภาพของการศึกษาในห้องเรียน จะเปลี่ยนพลวัตร และปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนไปโดยปริยาย เพราะนักเรียนจะมีข้อมูลมากขึ้นจากแหล่งข้อมูลไซเบอร์ ซึ่งจะมีผลบังคับให้ครูผู้สอนต้องเตรียมการสอนมากขึ้นเพื่อรับมือกับเด็กที่ค้นหาข้อมูลมาล่วงหน้า
                          “จะเห็นได้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นกุญแจที่สำคัญนำไปสู่การปฏิรูปการศึกษาที่ประเทศไทยพยายามมานานแล้ว เพราะเด็กจะมีข้อมูลมากขึ้น จะตั้งคำถามมากขึ้น จะสามารถวิเคราะห์ปัญหา แลกเปลี่ยนความเห็นกับครูได้ดีขึ้น บรรยากาศในห้องเรียนจะเปลี่ยนไป ไม่เป็นแต่เพียงการบรรยายของครู และการท่องจำของนักเรียนอีกต่อไป แต่ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ปฏิรูปการบริหารจัดการกระบวนการศึกษาของประเทศเสียใหม่” ดร.สุรินทร์ กล่าว
                          ดร.สุรินทร์ กล่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จำเป็นต้องผ่าตัดกระทรวงศึกษาธิการออกเป็นสามองค์กร แยกออกจากกันคือ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับมัธยมและอาชีวะศึกษา และระดับอุดมศึกษาทั้งนี้เพราะภารกิจทางด้านการศึกษา จำนวนบุคลากร และงบประมาณ ยิ่งใหญ่ สำคัญ และซับซ้อน เกินกว่ากระทรวงเดียวจะดูแลบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                          ความอยู่รอดของไทยในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกขึ้นอยู่กับความสามารถในการแข่งขันของคนไทย การศึกษาที่มีคุณภาพเท่านั้นที่จะประกันความเชื่อมั่นของชาวโลกต่อบทบาทของไทยในอนาคตได้
                          ทั้งนี้หวังว่ารายงานของ WEF ในปีหน้าจะปราณีประเทศไทยมากกว่าปีนี้ และจะสะท้อนความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของระบบการศึกษาไทย
 
 
  • 10 ก.ย. 2556 เวลา 07:08 น.
  • 2,437

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : 'สุรินทร์' แนะ 'รัฐบาล' เร่งปฏิรูปการศึกษาไทยก่อนสายเกินกู้กลับ

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^