กรรมาธิการ(กมธ.)การศึกษา เชื่อ สอบคัดเลือกครูผู้ช่วยมีทุจริต
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
วันนี้ (13ก.พ.) นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมกมธ.การศึกษาฯ ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยกรณีที่มีความจำเป็น หรือเหตุพิเศษ ว12 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) ขอนแก่น เขต 3 และสพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ที่มีพนักงานราชการคนหนึ่งมีชื่อผ่านการสอบคัดเลือกได้ทั้งสองเขตพื้นที่ฯ โดยได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 และนายภานุวัฒน์ ไชยวงค์ ผู้สอบได้ทั้งสองเขตเข้าชี้แจงเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งทางกมธ.ฯไม่เชื่อว่าการที่มีคนเข้าสอบแทนนายภานุวัฒน์จะไม่มีความเชื่อมโยงกัน โดยเชื่อว่าจะมีกระบวนการในเรื่องนี้และจะต้องมีความเชื่อมโยงกับสพป.ขอนแก่น เขต 3 ในการทุจริต โดยทางกมธ.ฯได้หารือกับผู้แทนสพฐ.และได้เน้นย้ำว่าสพฐ.ต้องเร่งรัดดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะเป็นความผิดที่เห็นชัดเจนไม่น่าจะยากอะไรกับการนำคนผิดมาลงโทษเพราะไม่มีความซับซ้อนมาก นอกจากนี้ยังได้แจ้งผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 3 ให้รีบดำเนินการสืบสวนให้รู้ประจักษ์ด้วยว่าความบกพร่องเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงปล่อยให้คนที่ไม่ใช่นายภานุวัฒน์เข้าไปสอบแทนได้
"การดำเนินการของสพป.ขอนแก่น เขต 3 ยังมีความล่าช้าอยู่และตอนนี้ก็บอกแค่ว่ายังไม่รู้ว่าใครมาสอบแทนทั้งๆ ที่บอกว่ามีรูป มีภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งการไปแจ้งความดำเนินคดีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอเพราะเป็นแค่คดีอาญา แต่ในทางวินัยที่จะเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องควรทำควบคู่กันไปไม่ใช่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่าจะช้าหรือเร็ว แต่หากทางสพป.ขอนแก่น เขต 3 มีความจริงใจก็ควรจะสอบสวนข้อเท็จจริงไปเลย เท่าที่ฟังข้อมูลน่าจะมีความเชื่อมโยงกันหลายระดับพอสมควรและน่าจะรู้กัน โดยทางสพป.ขอนแก่น เขต 3 น่าจะรู้เห็นด้วยเพราะปล่อยปละละเลยกันมากเกินไป ไม่เช่นนั้นคงไม่มีใครมาสอบแทนได้ แสดงว่าไม่ใส่ใจหรือจงใจให้เกิดขึ้น" นายประกอบ กล่าวและว่า ตนได้แจ้งที่ประชุมกมธ.การศึกษาฯว่าจะติดตามเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด หากสพฐ.ทำเรื่องนี้ช้าหรือหาคนผิดมาลงโทษไม่ได้ก็จะเล่นงานกับทางสพฐ.แทน ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.ได้โทรศัพท์ประสานมายังตนสนับสนุนให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงที่สุดเพราะทราบว่าเขตพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาอยู่จริง
นายประกอบ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของนายภานุวัฒน์ได้ชี้แจงว่าทำบัตรสมัครสอบที่สพป.ขอนแก่น เขต 3 หาย และในวันสอบจริงได้ไปเข้าสอบที่สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 ส่วนคนที่ไปสอบแทนที่สพป.ขอนแก่น เขต 3 นั้นไม่ทราบและยังสงสัยว่าทำไมถึงมีคนไปสอบแทน ซึ่งประเด็นนี้ทางกมธ.การศึกษาฯเห็นว่าน่าจะมีการพัวพันกันเพราะอยู่ดีๆใคร จะไปสอบแทนโดยไม่มีแรงจูงใจมีผลประโยชน์หรือมีการจ้างกันให้ไปสอบแทน ทั้งที่การไปสอบแทนก็มีความผิดทางอาญาด้วย และหลังจากนี้ทางกรรมาธิการจะติดตามการตรวจสอบของสพฐ.และยังจะประสานขอสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพล ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านนายพงศกร อรรณนพพร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.ในฐานะรองประธานกมธ.การศึกษาฯ กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นที่ดูเหมือนไม่มีระบบแต่มีระบบ เพราะจู่ๆคงไม่มีใครอยากจะไปสอบแทน และมองได้ว่าอาจเป็นกระบวนการข้างนอกหรือกระบวนข้างในที่ทำกัน หากไม่มีการรู้เห็นเป็นไปใจก็คงไม่สามารถมีคนเข้าสอบแทนได้ ฉะนั้นในจุดนี้จึงถึงเวลาที่จะต้องสะสางและทางสพฐ. กับทางเขตพื้นที่การศึกษาคงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของข้อสอบหรือมีข่าวออกมาว่ามีการจัดติวกันรวมทั้งเรื่องมือปืนรับจ้างที่เข้าสอบแทน ซึ่งเรื่องนี้มองกันได้หลายประเด็น
"เรื่องนี้เป็นความโชคดีที่เกิดกรณีนี้โผล่มาให้เห็น แต่ที่เราไม่เห็นในเขตพื้นที่การศึกษาอื่นดำเนินการกันถูกต้องหรือไม่ ส่วนที่มีการพูดกันว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองหากพูดแล้วครูกับนักการเมืองใกล้ชิดกัน ดังนั้นครูจะสนิทสนมกับใครก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง อย่างผมเป็นนักการเมืองก็รู้จักครู ใครจะดีใครจะชั่วหรือใครจะมาแอบอ้างเราก็ไม่รู้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะสืบเสาะไปถึงต้นเรื่องได้" นายพงศกร กล่าวและว่า เวลาสอบครูผู้ช่วยมักจะมีกระแสข่าวทุกครั้งเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งตนก็เชื่อว่าน่าจะต้องมีมูลไม่เช่นนั้นคงไม่มีข่าวออกมา ซึ่งหากจำได้ว่าในการสอบครั้งที่ผ่านมาที่เขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดขอนแก่นก็มีการยกเลิกการสอบมาแล้วเช่นกัน.
ขอบคุณข้อมูลจาก --> เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556