สพฐ.กำชับผอ.สพท.ทั่วปท. เร่งขับเคลื่อน11นโยบาย เดินหน้าแก้รร.ขนาดเล็ก
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
"เลขาฯ กพฐ." กำชับ ผอ.-รอง ผอ.สทพ.ทั่วประเทศ เร่งขับเคลื่อนการทำงานตาม กรอบ 11 นโยบาย ศธ.กำหนด พร้อมกับเดินหน้าโครงการโรงเรียนประชารัฐ-จับคู่โรงเรียนหลักกับโรงเรียนเล็ก เด็กต่ำกว่า 20 คน กว่า 500 โรงเรียน
ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) และรอง ผอ.สพท. จาก 225 เขตพื้นที่ทั่วประเทศ จำนวน 1,510 คน เข้าร่วม โดยมีนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) เป็นประธานเปิด และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนได้เน้นย้ำให้ ผอ.สพท.เร่งขับเคลื่อนการทำงานตาม 11 นโยบายที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบให้ สพฐ. ให้เกิดผลตามเป้าหมาย เช่น ทำให้การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เป็นที่ยอมรับ และสะท้อนผลสัมฤทธิ์และคุณภาพการศึกษา ภายในปี 2560, ส่งเสริมการสอนสะเต็มศึกษาให้ครบทุกโรงเรียนภายใน 5 ปี, สอนให้เด็กรู้จักคิดวิเคราะห์ เป็นต้น
นายการุณกล่าวต่อว่า ส่วนโครงการโรงเรียนประชารัฐ ที่ได้คัดเลือกโรงเรียนนำร่อง จำนวน 3,432 โรง จากนี้จะมีการนำระบบเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) จากภาคเอกชนมาใช้ เพื่อยกระดับจัดการเรียนการสอน ทำให้ต้องมีครูที่มีความรู้ทางด้านไอซีที แต่เบื้องต้น สพฐ. พบว่ามีโรงเรียนประชารัฐ ประมาณร้อยละ 20 ที่ยังขาดครูที่มีความรู้ ความสามารถด้านไอซีที ดังนั้น ตนจึงมอบหมายให้เขตพื้นที่ฯ ลงไปสำรวจข้อมูลอีกครั้ง เพื่อจะได้หาแนวทางอบรมพัฒนาครู หรือจัดสรรอัตราลงไป ให้มีความพร้อม อีกทั้งตนยังได้ทำความเข้าใจกับ ผอ.และรอง ผอ.เขตพื้นที่ฯ เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ตามโครงการโรงเรียนดีใกล้บ้าน ที่ล่าสุด สพฐ.ได้จับคู่โรงเรียนแม่เหล็กจำนวน 310 โรง กับโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน จำนวน 596 โรง ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ทั้งนี้ ขอให้เขตพื้นที่ฯ ลงไปทำความเข้าใจกับครูในโรงเรียนขนาดเล็ก ถึงเหตุผลที่ต้องควบรวมผู้บริหารและชุมชนในกระบวนการดังกล่าว โดยอาจจะมีการจัดให้ผู้ปกครองและเด็กในโรงเรียนขนาดเล็กไปเยี่ยมชมโรงเรียนแม่เหล็ก เป็นต้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการจัดการ และเด็กก็จะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพมากขึ้น
"รมว.ศธ.ได้เน้นย้ำ และวางนโยบายไว้ด้วยว่า หลังจากย้ายเด็กออกไปแล้ว พื้นที่ว่างลงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะไม่หวงไว้ จะเปิดโอกาสให้ชุมชนนำมาประโยชน์ตามบริบทและความต้องการกับชุมชน เช่น ทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ เป็นสถานที่เรียนการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)"เ ลขาฯกพฐ.กล่าว
นอกจากนี้ เลขาฯ กพฐ. ยังได้มอบรางวัล "ยอดครูผู้มีอุดมการณ์" ภายใต้โครงการตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู ประกอบด้วยเงินสด 300,000 บาท, เสมาทองคำ, โล่รางวัล และเกียรติบัตร จำนวนทั้งหมด 4 คน ในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1.ด.ต.ดนัย ภูเขาใหญ่ ตำแหน่งครูใหญ่ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลผะสุคี สังกัด กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ประจำภาคเหนือ 2.นายธีระทัศน์ อัครฉัตรรัตน์ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบัวเชดวิทยา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุรินทร์ เขต 33 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสิรินธร จ.สุรินทร์ ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3.นายชัยศักดิ์ ภูมูล ตำแหน่งครูชำนาญการ โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี เขต 8 ประจำภาคกลาง และ 4.นายประจักษ์ ชูศรี ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปัตตานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ประจำภาคใต้.
ขอบคุณเนื้อหาและข้อมูลข่าวจาก :: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 12 กันยายน 2559