LASTEST NEWS

19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.ขอนแก่น - ผลย้ายครู 2567 สพม.ขอนแก่น 19 เม.ย. 2567ประกาศผลย้ายครู ปี 2567 ครั้งที่ 1 (รอบที่ 1) สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ - ผลย้ายครู 2567 สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ 19 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 18 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 18 เม.ย. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ สังกัด สพฐ. ปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 18 เม.ย. 2567(( ประกาศแล้ว )) รายชื่อผู้สอบผ่าน ภาค ก และ ข การสอบบรรจุรับราชการครูฯ ตำแหน่งบุคลากร 38 ค.(2) สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2567 เช็กผลสอบ 38 ค. สพฐ. ได้ที่นี่ 18 เม.ย. 2567อย่างเป็นทางการ! กำหนดสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป สังกัดสพฐ. ปี พ.ศ.2567 ประกาศรับสมัครภายใน 1 พ.ค. 2567 - รับสมัคร 8-14 พ.ค.2567 18 เม.ย. 2567กรุงเทพมหานคร เปิดสอบครูผู้ช่วย กรณีพิเศษ (ทุนเอราวัณ) 84 อัตรา สมัคร 1 พฤษภาคม 2567 - 14 มิถุนายน 2567 18 เม.ย. 2567อย่างเป็นทางการ !! กทม.เรียกบรรจุครูผู้ช่วย 592 อัตรา (สำรอง 125 อัตรา) - รายงานตัว 29-30 เม.ย.2567

เสมา2ชี้การศึกษาไทยมี2ด้าน

  • 04 พ.ย. 2557 เวลา 06:59 น.
  • 1,257
เสมา2ชี้การศึกษาไทยมี2ด้าน

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

เสมา2ชี้การศึกษาไทยมี2ด้าน
 
“กฤษณพงศ์ ”ไม่เชื่อรายงานการศึกษาไทยห่วยออกจากหน่วยราชการต่างประเทศ ย้ำเดินหน้าใช้ 3 ส่วนหลักดันปฏิรูปอุดมศึกษาไทย จี้มหาวิทยาลัยเปิดข้อมูลสาขาเรียนจบมีงานทำ ให้เด็กรู้ก่อนเลือกเส้นเรียน
 
นนี้ ( 3 พ.ค.)ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพ่รรายงานของชาวต่างชาติทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาของไทยมีปัญหาคุณภาพตั้งแต่มัธยมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย ว่า ตนเชื่อว่าข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะเป็นข้อมูลของหน่วยต่างประเทศ เพราะการศึกษาของไทย มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี ถ้าไม่ดีเลยคงขับเคลื่อนสังคมไม่ได้มาจนถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาคนไทยชอบพูดถึงด้านไม่ดี ของที่ดีซึ่งมีอยู่ก็ไม่พูดถึงกัน อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนดูแลการอุดมศึกษา การปฏิรูปการศึกษาที่จะดำเนินการในส่วนของอุดมศึกษานั้นมี 3 ส่วนหลักที่ตนอยากจะผลักดัน คือ 1.ให้มหาวิทยาลัยใช้แผนพัฒนาอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี(พ.ศ.2551- 2565) ซึ่ง ได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยตนเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) คิดว่าเป็นแผนที่ดี ไม่ต้องคิดนโยบายใหม่ แต่ให้มหาวิทยาลัยมาดูว่าใน 1 ปีนี้ จะเน้นอะไร ต้องการความช่วยเหลือด้านทรัพยากร หรือ ให้ปลดล็อคอะไร ก็บอกมา
 
รมช.ศธ. กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่ 2.เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษามอบอำนาจให้มหาวิทยาลัยไปจัดการตัว เองได้มากแล้วก็ต้องทำสภามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นกลไกการดูแลบริหารจัดการมหาวิทยาลัยให้มีความเข้มแข็ง เช่น ให้สถาบันคลังสมองของชาติ จัดฝึกอบรมกรรมการสภามหาวิทยาลัยให้มากขึ้น ให้มหาวิทยาลัยนำตัวอย่างที่ดีของตนเองมาเผยแพร่และเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัย อื่นส่งคนไปเรียนรู้ หรือนั่งทำงานด้วยได้ ตลอดจนมาทบทวนเรื่องการแชร์ข้อมูลกับต่างประเทศ เป็นต้น
 
"มี แนวคิดว่าจะต้องมีกฎหมายกลางเข้าไปดูแลสภามหาวิทยาลัย อย่างร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ที่จะผลักดันกันนั้น ผมยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่หากจะผลักดันต้องพิจารณาร่วมโดยที่ไม่ได้ใช้อำนาจของใครคนใดคนหนึ่ง จะไม่เข้าไปตัดสินทุกเรื่อง แต่จะเน้นบางเรื่องอย่าง หลักสูตรการเรียนการสอนที่จบออกมาแล้วไม่มีงานทำอาจจะต้องให้อำนาจส่วนกลาง หรือ สกอ.ไม่อนุมัติให้มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรดังกล่าว ไม่ใช่ว่าเมื่อมหาวิทยาลัยเสนออนุมัติหลักสูตรที่ผ่านความเห็นชอบจากสภา มหาวิทยาลัยมาให้ สกอ.ก็ต้องอนุมัติทั้งหมด เนื่องจากมีการให้อำนาจสภามหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ซึ่งโดยหลักแล้วการจะเปิดสอนหลักสูตรต่างๆ ควรจะต้องดูในภาพรวมทั้งระบบ แต่อย่างไรก็ตามการสร้างสภามหาวิทยาลัยให้เข้มแข็งน่าจะเป็นกลไกที่ดีกว่า ที่จะไปควบคุมดูแลและน่าจะทำได้เร็วกว่า” รมช.ศธ. กล่าว
 
ดร.กฤษณพงศ์ กล่าวด้วยว่า 3.การเพิ่มความรับผิดรับชอบของมหาวิทยาลัยในการผลิตนักศึกษาออกมาแล้วมีงานทำหรือสร้างงานเองได้ ซึ่งตนอยากให้มหาวิทยาลัยทำรายงานหรือให้ข้อมูลแก่สาธารณะที่ควรจะรับทราบอย่าง เช่น อัตราการมีงานทำของบัณฑิตแต่ละมหาวิทยาลัยที่จบออกไป อัตราเงินเดือนที่ได้รับ และเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพนั้นๆ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนใช้ข้อมูลเหล่านี้ตัดสินใจในการสมัครเข้าเรียนต่อใน มหาวิทยาลัย โดยปัจจุบันข้อมูลดังกล่าวสกอ.มีเฉพาะในส่วนของการรับ การจบนักศึกษาในแต่ละสาขาวิชาทั่วประเทศ แต่อัตราการมีงานทำ และเงินเดือนจะเป็นข้อมูลของมหาวิทยาลัย ดังนั้น หากมีการเผยแพร่ข้อมูลส่วนนี้ออกมาเป็นเป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งตนหวังว่าในช่วงของการสมัครแอดมิชชั่น ปีการศึกษา 2558 น่าจะมีข้อมูลบางส่วนออกมาก่อน อย่างในสาขาวิชาที่มีคนเรียนเยอะในสายสังคม ทั้งนี้ตนจะไปพิจารณาว่าข้อมูลการจบ และการมีงานทำควรจะต้องนำมาพิจารณาเพื่อตั้งงบประมาณภาครัฐในแต่ละ มหาวิทยาลัยหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาได้หารือเรื่องนี้กับทางที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยแล้ว จากนี้ไปจะไปพูดคุยกับกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลและมหาวิทยาลัย ราชภัฏและมหาวิทยาลัยเอกชนเพื่อขอความร่วมมือต่อไป.
 
 
  • 04 พ.ย. 2557 เวลา 06:59 น.
  • 1,257

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : เสมา2ชี้การศึกษาไทยมี2ด้าน

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^