ศธ.เล็งยกเลิกซื้อแท็บเล็ตแจกเด็กรายคน
นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม
ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ 
ก-
ก+
ศธ.เล็งยกเลิกซื้อแท็บเล็ตแจกเด็กรายคน
ศ.พิเศษ ดร.ภาวิชทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนเตรียมจะเสนอนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ให้ปรับเปลี่ยนโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนหรือ โครงการ 1คอมพิวเตอร์พกพา(แท็บเล็ต)ต่อนักเรียน อีกครั้งหลังจากได้มีการสานต่อโครงการนี้อย่างต่อเนื่องมา2ปีโดยการจัดซื้อแท็บเล็ตไปแจกนักเรียนชั้นป.1ไปแล้ว800,000เครื่องอยู่ระหว่างจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนป.1และม.1อีก1.6ล้านเครื่องภายใต้งบประมาณปี2556ส่วนปี2557นั้นกำลังเตรียมวางแนวทางการจัดซื้อเป็นปีที่3เพราะการจัดซื้อแท็บเล็ตในแต่ละปีจะจัดซื้อเพื่อแจกให้ประจำตัวนักเรียนชั้นป.1และม.1โดยให้นักเรียนสามารนำกลับไปใช้ที่บ้านได้
ศ.พิเศษดร.ภาวิช กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้การลงทุนเกิดความคุ้มค่าและให้สามารถนำสื่อไอซีทีมาใช้ในการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ตนจะเสนอให้พัฒนาโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนไปสู่โครงการห้องเรียนอัจฉริย หรือ SmartClassroom โดยนำงบประมาณของโครงการนี้ไปจัดสร้างห้องเรียนอัจฉริยะแทนการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียน โดยจะจัดซื้อครบวงจรตั้งแต่กระดานอัจฉริยะ(SmartBoard ) เครื่องServerคอมพิวเตอร์สำหรับครูเครื่องแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนประมาณ30เครื่องต่อห้องรวมถึงโปรแกรมสำเร็จรูปในการควบคุมอุปกรณ์ภายในห้องเรียนด้วย
“หากสามารถนำงบประมาณมาจัดสร้างห้องเรียนอัจฉริยะแทนได้จะทำให้จำนวนจัดซื้อเครื่องแท็บเล็ตลดลงประมาณ40%เพราะไม่ต้องแจกให้ประจำตัวนักเรียนเหมือนเดิมแต่จะให้มีการหมุนเวียนนักเรียนเข้ามาใช้งานห้องเรียนอัจฉริยะซึ่งจะเป็นระบบที่ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่อย่างแท้จริงและ จริง ๆ แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่เด็กจะต้องเรียนทุกๆ วิชาในห้องเรียนอัจฉริยะเช่น ดนตรี พละก็ต้องเรียนนอกห้องเรียนอยู่แล้ว ซึ่งผลวิจัยก็ออกมาว่าเด็กสามารถเรียนในห้องเรียนอัจฉริยะได้เต็มที่แค่5ชั่วโมงต่อวันเพราะฉะนั้นสามารถหมุนเวียนกันใช้ห้องได้อย่างไม่มีปัญหา”ศ.ดร.ภาวิช กล่าวและว่า สำหรับการยกเลิกแจกแท็บเล็ตให้นักเรียนนำกลับไปใช้ที่บ้านนั้นก็สามารถลดความกังวลของนักวิชาการและฝ่ายต่างๆที่เป็นห่วงว่าเด็กจะใช้เวลาอยู่กับแท็บเล็ตจนไม่สนใจอย่างอื่นอีกทั้งการที่เด็กนำแท็บเล็ตไปใช้เองโดยลำพังที่บ้านก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่เท่ากับการใช้งานภายใต้การดูแลแนะนำของครู อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องหารือกับรมว.ศึกษาธิการก่อน
ที่มาของข่าว : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 1 มกราคม 2557