LASTEST NEWS

02 ธ.ค. 2567มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับสมัครอาจารย์ทางด้านระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เงินเดือน 28,630 หรือ 41,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 20 ธันวาคม 2567 02 ธ.ค. 2567มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัย สายวิชาการ ตำแหน่งอาจารย์ทางด้านการเงิน เงินเดือน 28,630 หรือ 41,000 บาท  02 ธ.ค. 2567มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับสมัครพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไปปฏิบัติการ วุฒิปริญญาตรี เงินเดือน 21,250 บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 9 ธ.ค.2567 02 ธ.ค. 2567“คุรุสภา” เร่งออกข้อบังคับมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย 02 ธ.ค. 2567ครูจบใหม่โอด! อยากมีโอกาสเรียกบรรจุ หลังพบเขตพื้นที่กำหนดรับย้ายเกือบ 100% 30 พ.ย. 2567วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ รับสมัครพนักงานราชการครู ตั้งแต่ 11-27 ธันวาคม 2567 30 พ.ย. 2567กองบัญชาการกองทัพไทย รับสมัครพนักงานราชการ 129 อัตรา วุฒิ ม.3, ม.6, ปวช. ปวส. ขึ้นไป สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่บัดนี้ - 8 ธันวาคม 2567 30 พ.ย. 2567สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1 รับสมัครพนักงานราชการครู 7 อัตรา เงินเดือน 18,000.-บาท และพนักงานธุรการ 1 อัตรา เงินเดือน 13,800.-บาท ระหว่างวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2567  30 พ.ย. 2567โรงเรียนบ้านนาแก้วประชารัฐ รับสมัครครูอัตราจ้าง ทุกสาขาวิชาเอก (ยกเว้น ปฐมวัย) เงินเดือน 8,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 4 ธันวาคม 2567 30 พ.ย. 2567สพฐ. พร้อมเปิดพื้นที่โรงเรียน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้

ข่าวเด่นการศึกษารอบปี 2556

  • 01 ม.ค. 2557 เวลา 21:19 น.
  • 2,035
ข่าวเด่นการศึกษารอบปี 2556

นำเสนอข่าวโดย >> ทีมงานครูวันดีดอทคอม ส่งข่าวนี้ เข้าไลน์ LINE it! - +

ทุจริตสอบครูผู้ช่วย
                     
                มหากาพย์ครูผู้ช่วย เริ่มต้นจากน้ำผึ้งหยดเดียว พบว่า มีบุคคลชื่อซ้ำกันเข้าสอบครูผู้ช่วย ว 12 กรณีพิเศษหรือเหตุจำเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ใน 2 สนามสอบ จากจุดนั้น หลักฐานและพิรุธก็ทยอยทะลักออกมา โดยมีฝ่ายการเมือง "เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดดเข้ามาร่วม คุ้ยแคะ ด้วย จนในที่สุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้เพราะการสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ "ส่อทุจริต" ชัดเจนมาก
 
                หลักฐานเด็ด ก็คือ การมีผู้เข้าสอบทำได้คะแนนสอบระดับเทพ หรือเกิน 80% จำนวนมาก แต่ปรากฏว่า เทพจำนวน 344 คนนี้ กลับทำข้อสอบผิดในข้อเดียวกันและเลือกคำตอบ ข้อ ข. เหมือนๆ กัน ทั้งๆ ที่เป็นข้อสอบง่าย ส่อให้รู้ว่า มีการนำเฉลยข้อสอบออกมาติวกัน แต่เผอิญข้อสอบเฉลยผิด 1 ข้อ ความเลยแตก สุดท้าย ทั้ง 344 คน ซึ่งบางคนบรรจุแล้วถูกให้ออกจากราชการ แต่ล่าสุด "จาตุรนต์ ฉายแสง" รมว.ศึกษาธิการ สั่งชะลอเรื่องไว้ก่อน แต่คดีนี้ก็ทำให้ระดับบิ๊กของ สพฐ.คือ "ชินภัทร ภูมิรัตน" อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลในเดือนมกราคม 2557 นี้ แต่สุดท้ายก็อาจไม่มีอะไรในกอไผ่
 
 
4ไตรมาส3รัฐมนตรี
 
                อีกรอบปีที่กระทรวงศึกษาธิการใช้รัฐมนตรีเปลือง หลัง "สุชาติ ธาดาธำรงเวช"  อดีต รมว.ศึกษาธิการ ออกอาการมึน จนถูกปลดไปช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2555 "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" ก็ถูกส่งมาเสียบในตำแหน่งนี้แทน พร้อมควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยมี "เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช" รั้งตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ แต่การทำหน้าที่ของ "พงศ์เทพ" เสมือนทำเป็นงานเสริม เจ้าตัวมุ่งแต่งานหลักอยู่ตำแหน่งรองนายกฯ สุดท้ายอีก 8 เดือน เจ้าตัวก็อำลาตำแหน่งไปเป็นรองนายกฯ เต็มตัว มอบเก้าอี้ให้ "จาตุรนต์ ฉายแสง" เข้ามานั่งแทน ในเดือนกรกฎาคม 2556 เมื่อครั้งที่ "รัฐบาลปู 3" ปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อรอรับสมาชิกบ้านเลขที่ 111
 
 
ปฏิรูปหลักสูตรใหม่
 
                ก่อนจะยุบรัฐสภา "รัฐมนตรี 5 เดือน"จาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ฝากผลงานเด่นหนึ่งเดียวไว้ คือ การผลักดันให้การปฏิรูปหลักสูตรใหม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดยเริ่มออกตัวจากการแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้"จาตุรนต์" สั่งการให้มีการสแกนนักเรียนครั้งใหญ่เพื่อหาตัวเลขจริงๆ ของเด็กที่มีปัญหาด้านภาษาไทย พบว่า จากจำนวนนักเรียนชั้น ป.3 ป.6 จำนวน 1.6 ล้านคน มีเด็กอ่านไม่ออก อ่านไม่คล่องกว่า 4 แสนคน ซึ่ง "จาตุรนต์" ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปแก้ปัญหาและตั้งเป้าว่า สิ้นปีการศึกษา 2556 จำนวนเด็กที่อ่านไม่ออก อ่านไม่คล่อง จะต้องเหลือ 0%  
 
                ขนานกับการแก้ปัญหาดังกล่าว "จาตุรนต์" ได้มอบหมายให้ "ภาวิช ทองโรจน์"ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพในการยกร่างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่ เพราะหลักสูตรปัจจุบันถูกวิจารณ์ว่า ไม่สามารถตอบโจทย์ในการสอนให้เด็กไทย "คิด วิเคราะห์เป็นได้" ขณะเดียวกันก็มีผลวิจัยยืนยันว่า จำนวนชั่วโมงเรียนของไทยสูงกว่าประเทศอื่น แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลับต่ำกว่าประเทศที่ชั่วโมงเรียนน้อยกว่า แนวโน้มการปรับหลักสูตรครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายเพื่อลดชั่วโมงเรียนลง และให้เวลากับการเรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น ล่าสุดหลักสูตรใหม่ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และทางฝ่ายการเมืองเตรียมนำร่างหลักสูตรใหม่ขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ภายในเดือนมกราคม 2557 เพื่อให้มีผลอย่างเป็นทางการ ก่อนที่รัฐบาลนี้จะสิ้นสภาพ
 
 
แจกแท็บเล็ตปี2วืด
 
                โครงการจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียน ป.1 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2555 เปิดตัวและลุล่วงไปได้รอด กระทรวงศึกษาธิการจึงกระตือรือร้นกับการจัดซื้อในปีที่ 2 อย่างมาก ซึ่งขยายการจัดซื้อแจกทั้งนักเรียน ป.1 และ ม.1 รวมกว่า 1.6 ล้านเครื่อง เริ่มตั้งท่า เงื้อง่า กันตั้งแต่ปลายปี 2555 โดยมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดซื้อแบบยกพวงจากผู้ผลิตในประเทศจีน มาจัดซื้อจากตลาดในประเทศแทน และแบ่งการจัดซื้อออกเป็น 4 โซน แต่กว่าจะได้ลงมือจัดซื้อผ่านระบบอีอ็อกชั่นจริงๆ ก็ล่วงเข้าไปเดือนพฤษภาคม 2556 และก็มีงานเข้าทันที เพราะการประมูลในโซน 3 ได้ราคาประมูลที่สูง โดด กว่าโซนอื่นอีก 3 โซน จนแม้แต่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ยังทักท้วงการประมูลในโซน 3 นี้
 
                "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" รมว.ศึกษาธิการ ในขณะนั้น จึงเห็นด้วยให้ยกเลิกการประมูลในโซน 3 เพื่อเปิดประมูลใหม่ แต่ผู้ชนะการประมูลกลับไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ของกรมบัญชีกลาง ซึ่ง กวพ.อ.กลับมีความเห็นสวนว่า ไม่ควรยกเลิกการประมูลในโซน 3 ร้อนจนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องจัดทำเอกสารชี้แจง กวพ.อ.ใหม่ จนถึงปัจจุบัน ปัญหาโซน 3 ยังไม่เป็นที่ยุติ ส่วนอีก 3 โซนที่เหลือก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องยุ่งยากนี้ ทำให้เพิ่งเซ็นสัญญาจัดซื้อได้เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 และต้องส่งมอบเครื่องภายใน 35 วัน ซึ่งมีโอกาสว่าจะส่งมอบไม่ทันและนำไปสู่การยกเลิกสัญญาในทั้ง 3 โซน
 
 
"พนิตา"ย้ายขรก.เลอะ!
 
                ออกตัวแรง ตั้งแต่เริ่มต้นตำแหน่งสำหรับ "ปลัดข้าวนอกนา" พนิตา กำภู ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่เคยระเห็จไปดองในตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี แต่แรงฮึดของเจ้าตัวด้วยการสนับสนุนโดยตรงของนายกรัฐมนตรี "พนิตา" จึงได้กลับมาเบ่งบานอีกครั้งในตำแหน่ง "ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ" ก่อนเกษียณอายุราชการ 1 ปี ฉับพลันที่รับตำแหน่งใหม่ไม่นาน ปลัดคนนอก ดีกรีพี่สาวคนในพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มเปิดศักราชโยกย้ายข้าราชการในสำนักปลัด ศธ.เป็นระลอกๆ แต่มาดังเป็นพลุแตกก็ในคราวที่ออกคำสั่งโยกย้ายรวดเดียว 11 ตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่ระดับ ผอ.สำนัก ไปจนถึงระดับเจ้าหน้าที่ ซึ่งถูกติงว่า เป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม เพราะหลายคนถูกย้ายจากส่วนกลางไปประจำอยู่ต่างจังหวัด โดยไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า ในที่สุดหนึ่งในจำนวนนั้นที่ถูกย้ายคุมสำนักประสานงานการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัดสินใจลาออกเพราะรู้ตัวดีว่าไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงได้ และมีข่าวว่า ผู้ที่ถูกโยกย้ายบางรายเตรียมตัวฟ้องร้องผู้ออกคำสั่ง ท้ายสุดแม้เรื่องจะเงียบไป แต่คดีนี้ก็ทำให้ "พนิตา" จบชีวิตราชการอย่างไม่น่าประทับใจ

 
การศึกษาไทยรั้งอันดับ8
 
                กลายเป็นเรื่อง ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อ "ภาวิช ทองโรจน์" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ออกมาเปิดเผยข้อมูลการประชุมของ World Economic Forum (WEF) - The Global Cometitiveness Report 2012-2013 ซึ่งเป็นการประชุม "เวทีเศรษฐกิจโลก" ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยองค์กรอิสระที่ไม่หวังผลกำไร และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ โดยได้จัดอันดับคุณภาพการศึกษาของประเทศในกลุ่มอาเซียน และปรากฏว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับรั้งท้าย คือ อันดับที่ 8 มีคะแนนต่ำที่สุด เป็นรองจากประเทศเวียดนาม ที่ได้อันดับ 7 และประเทศกัมพูชา อันดับ 6 งานนี้ "จาตุรนต์ ฉายแสง" รมว.ศึกษาธิการ สั่งทำการบ้านด่วน ก่อนยกเครื่องการศึกษาไทยทั้งระบบ 
  
(ข่าวเด่นการศึกษารอบปี 2556 : โดย...ทีมข่าวการศึกษา) 
 
  • 01 ม.ค. 2557 เวลา 21:19 น.
  • 2,035

TAGS ที่เกี่ยวข้อง >>

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ : ข่าวเด่นการศึกษารอบปี 2556

เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^